เอเจนซีส์ / MGR online - ผลการตรวจสอบโดยบริษัทแม่ของผู้ให้บริการเดินรถไฟที่ประสบอุบัติเหตุตกรางในแคเมอรูนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 ราย เผยในวันอังคาร (25 ต.ค.) ชี้ตรวจพบว่ารถไฟขบวนดังกล่าวแล่นด้วยความเร็วที่สูงผิดปกติก่อนตกราง
เอริก เมเลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท “Bollore Africa Railways” แห่งฝรั่งเศส ที่เป็นบริษัทแม่ของ “แคมเรล” ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ในแคเมอรูน ระบุว่า โดยปกติแล้วรถไฟจะต้องแล่นด้วยความเร็วต่ำระหว่าง 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในพื้นที่ที่ต้องจำกัดความเร็ว เช่น เมื่อกำลังแล่นเข้าสู่สถานีรถไฟ แต่ผลจากการตรวจสอบเบื้องต้นกลับพบข้อมูลว่า รถไฟขบวนที่ประสบอุบัติเหตุตกรางในแคเมอรูนจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 550 รายเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กลับแล่นด้วยความเร็วระหว่าง 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตที่ต้องจำกัดความเร็ว
อย่างไรก็ดี ประธานบริหารบริษัทเดินรถไฟสัญชาติฝรั่งเศสรายนี้ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า สาเหตุของโศกนาฏกรรมรถไฟตกรางในแคเมอรูนมีต้นตอมาจากความประมาทหรือความบกพร่องต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถหรือไม่
ข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมืองเอเซกา บนเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อเมืองดูอาลาที่เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ กับกรุงยาอุนเด ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ โดยที่ขบวนรถไฟเที่ยวนี้มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากถนนสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 เมืองไม่สามารถสัญจรได้
จนถึงขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมของแคเมอรูน รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการเดินรถไฟ “แคมเรล” ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้แน่ชัด
รายงานข่าวระบุว่า รถไฟขบวนนี้ออกเดินทางจากกรุงยาอุนเดเมื่อประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเมื่อวันศุกร์ (21) ก่อนจะประสบอุบัติเหตุตกรางในช่วงเที่ยงวัน หลังเดินทางไปได้ราว 200 กิโลเมตรเศษ
เส้นทางรถไฟสายนี้มีผู้โดยสารคับคั่งเป็นพิเศษในวันเกิดเหตุ เนื่องจากสะพานแห่งหนึ่งบนถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างกรุงยาอุนเดกับเมืองดูอาลาเพิ่งพังถล่มลงมา หลังฝนตกหนักเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (20) ทำให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต และผู้คนส่วนใหญ่ต้องหันมาใช้บริการรถไฟแทน