เอเจนซีส์ – กลุ่มมือปืนที่สวมเสื้อระเบิดฆ่าตัวตาย ได้บุกโจมตีโรงเรียนตำรวจ บาโลคริสตัน(Balochistan Police College) ในเมืองเควตตา และจับเหล่านักเรียนนายร้อยเป็นตัวประกัน โดยเหตุการณ์ยืดเยื้อนาน 5 ชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 61 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 118 คน เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอวดอ้างว่าเป็นคนทำ แต่รัฐบาลปากีสถานเชื่อว่า กลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายสุหนี่ "ลัชการ์-อี-ฌังวี" อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นองเลือดรุนแรงนี้
เจ้าหน้าที่เผยว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันจันทร์ (24) โดยมีนักเรียนนายร้อยอยู่ในโรงเรียนดังกล่าวมากกว่า 200 คน นักเรียนบางคนถูกจับเป็นตัวประกัน เหตุการณ์นี้ยืดเยื้อนาน 5 ชั่วโมง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนายร้อย ขณะที่นักเรียนนายร้อยคนหนึ่งเล่าว่า มือปืนบุกเข้าไปที่หอพักโดยตรงและเริ่มกราดยิงในระยะเผาขน ทำให้นักเรียนต้องวิ่งหนีกันทั่วอาคาร
ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานพลเรือนในที่เกิดเหตุบอกกับเอเอฟพีว่า เมื่อปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายเริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดดังหลายครั้งขณะที่การสู้รบดำเนินอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้ยกเลิกการปิดล้อม ส่วนรถพยาบาลก็วิ่งเข้าวิ่งออกเพื่อนำผู้ได้รับบากเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยมีเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนอยู่บนฟ้า
เมอร์ ซาร์ฟาราซ บักตี รัฐมนตรีมหาดไทยของจังหวัดบาลูจิสถาน ที่มีเควตตาเป็นเมืองเอก เปิดเผยว่า มือปืนโจมตีหอพักในศูนย์ฝึกขณะที่นักเรียนนายร้อยหลับอยู่ โดยมือปืนสองคนได้ระเบิดตัวเอง ส่วนคนที่สามซึ่งเป็นเด็กชายวัยรุ่นถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยยิงที่ศีรษะ
แม้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอวดอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ แต่ทางด้าน พล.อ.เชอร์ อัฟกัน หนึ่งในผู้บัญชาการทหารระดับสูงในบาลูจิสถาน ให้สัมภาษณ์ว่า จากการดักฟังการติดต่อระหว่างกลุ่มผู้โจมตีสามคนกับหัวหน้าปฏิบัติการในอัฟกานิสถานบ่งชี้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นสมาชิกกลุ่มลัชการ์-อี-ฌังวี (แอลอีเจ) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายสุหนี่ พร้อมเสริมว่า อัล อลามี ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของแอลอีเจ อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้
แอลอีเจที่มีต้นกำเนิดในจังหวัดปัญจาบ มีประวัติการโจมตีในบาลูจิสถานหลายครั้ง โดยเฉพาะการโจมตีชนกลุ่มน้อยฮาซารา ชีอะห์ และก่อนหน้านี้ปากีสถานเคยกล่าวหาแอลอีเจสมคบกับกลุ่มอัล-กออิดะห์
ปีที่แล้ว ทางการปากีสถานเริ่มต้นการกวาดล้างกลุ่มลัชการ์-อี-ฌังวี โดยเฉพาะในปัญจาบ และในเดือนกรกฏาคม ตำรวจสามารถสังหาร มาลิก อิซหาก ผู้นำกลุ่มรวมทั้งสมาชิกอีก 13 คนของกลุ่มผู้นำส่วนกลาง ระหว่างพยายามหลบหนี
เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการโจมตีโรงเรียนตำรวจ
ซานอลเลาะห์ เซห์รี มุขมนตรีบาลูจิสถาน เปิดเผยกับสถานีทีวีในท้องถิ่นว่า ทางการได้รับรายงานข่าวกรองเมื่อ 2-3 วันก่อนว่า อาจมีการโจมตีในเควตตาซิตี้ จึงมีการระดมรักษาความปลอดภัยในเควตตา แต่มือปืนกลับไปโจมตีโรงเรียนตำรวจ
การโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในปากีสถาน นับจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเควตตาเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 70 คน
ในครั้งนั้น มือระเบิดแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนที่ส่วนใหญ่เป็นทนายความและผู้สื่อข่าว ซึ่งอยู่กันแน่นในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล เพื่อรอรับศพนักกฎหมายชื่อดังที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันก่อนหน้านั้น
การโจมตีเมื่อวันจันทร์ถูกเตรียมการมาอย่างดี เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระบุว่า มือปืนยิงศูนย์ฝึกตำรวจจาก 5 จุด ก่อนจู่โจมเข้าสู่หอพักที่มีนักเรียนนายร้อย 200-250 คนพักผ่อนอยู่ ส่วนสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีการระเบิดอย่างน้อย 3 ครั้ง
เควตตานั้นถือเป็นฐานของกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถานมายาวนาน โดยบรรดาผู้นำกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวมักนัดพบกันในเมืองนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ไฮบาตุลลาห์ อัคฮันด์ซาดา ผู้นำคนปัจจุบันของตอลิบาน ยังสอนและเทศนาในมัสยิดนอกเควตตานานถึง 15 ปีจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ ขณะที่ มุลเลาะห์ อัคตาร์ มานซูร์ ผู้นำคนก่อนหน้า ก็ถูกโดรนของอเมริกาสังหารขณะเดินทางจากชายแดนปากีสถาน-อิหร่านไปยังเควตตา
จังหวัดบาลูจิสถานเกิดเหตุการณ์รุนแรงอยู่เนืองนิจ จากพวกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่โจมตีกองกำลังความมั่นคงอย่างสม่ำเสมอนานเกือบหนึ่งทศวรรษ รวมถึงการตอบโต้กลับของกองทัพ
นอกจากนี้ กลุ่มติดอาวุธโดยเฉพาะพวกกลุ่มลัทธิต่างๆ ก็มักจะโจมตีชนกลุ่มน้อยชาวชีอะห์ด้วยระเบิดฆ่าตัวตายและการลอบสังหาร