เอเจนซีส์ / MGR online - เกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกกราดยิงกลุ่มผู้แสวงบุญชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เมื่อกลางดึกของวันอังคาร (11 ต.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 36 ราย ขณะมีการเฉลิมฉลองพิธี “อะชูรา” ที่เป็นหนึ่งในเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของชาวชีอะห์
เซดิก เซดิกกี โฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานออกมาแถลงว่า สมาชิกกองกำลังความมั่นคงอัฟกันสามารถปลิดชีพมือปืนที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ได้ 1 ราย และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยในเบื้องต้นพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 รายนั้น แบ่งเป็นกลุ่มผู้แสวงบุญชาวมุสลิมนิกายชีอะห์จำนวน 13 ราย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอัฟกันเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อีก 1 นาย
ด้านอับดุล ระห์มาน ราฮิมี ผู้บัญชาการตำรวจกรุงคาบูล ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีการอพยพประชาชนจำนวนหลายสิบชีวิตออกจากพื้นที่แสวงบุญ “คาร์เต ซากี” อันศักดิ์สิทธิ์ และกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุจำนวนมือปืนที่ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ได้แน่ชัด
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีชาวมุสลิมชีอะห์กลางกรุงคาบูลครั้งนี้ ที่ประธานาธิบดี อัชราฟ กานี ผู้นำอัฟกานิสถานออกโรงประณามว่าเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ทั้งนี้ เทศกาลอะชูราของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงการเสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารเมื่อปี ค.ศ. 680 ของอิหม่ามฮุสเซน ที่เป็นหลานชายของศาสดามูฮัมหมัด โดยเทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์นี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้กับการกดขี่ของชาวมุสลิมชีอะห์ทั่วโลก
ก่อนหน้านี้เมื่อ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมาเพิ่งเกิดการโจมตีที่มีเป้าสังหารเป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมชีอะห์ในกรุงคาบูล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 84 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 130 ราย ซึ่งสาขาของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอัฟกานิสถานออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีในครั้งนั้น
