รอยเตอร์ – ภูเขาไฟอาโสะ (Aso) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่นเกิดการปะทุขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (8 ต.ค.) โดยปลดปล่อยเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าถึง 11 กิโลเมตร สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรายงาน
สื่อแดนปลาดิบยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปะทุครั้งล่าสุด ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 1.46 น. ตามเวลาท้องถิ่น (23.46 น. วานนี้ตามเวลาในไทย) บริเวณยอดแห่งหนึ่งของภูเขาไฟลูกนี้ ซึ่งมีจุดสูงสุดอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,592 เมตร
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า การระเบิดอย่างรุนแรงในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ปี 1980 เป็นต้นมา
ภูเขาไฟอาโสะซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดคุมาโมโตะเป็นหนึ่งในบรรดาภูเขาไฟที่ยังมีพลังที่สุดของแดนอาทิตย์อุทัย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนจำนวนมากนิยมไปเดินป่าชมธรรมชาติ
ภาพจากสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ตกลงมาปกคลุมรถยนต์และท้องถนนในเมืองอาโสะ โดยกระแสลมได้พัดเอาเถ้าถ่านเหล่านี้ลอยไปไกลถึง 320 กิโลเมตร
เกษตรกรที่ปลูกมะเขือเทศและหน่อไม้ฝรั่งอยู่ห่างจากปากปล่องภูเขาไฟประมาณ 6-8 กิโลเมตร ให้สัมภาษณ์ว่า เรือนกระจกไวนีลถูกเถ้าถ่านและหินขนาดเล็กตกสะสมจนพังลงมา
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการเตือนภัยเป็นระดับที่ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ โดยห้ามมิให้ประชาชนเดินทางเข้าไปใกล้ภูเขาไฟ เพราะอาจได้รับอันตรายจากก้อนหินที่ปลิวหล่นลงมา
บริษัท คิวชู อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค ยืนยันว่า การระเบิดของภูเขาไฟอาโสะครั้งนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เซนได ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร และเป็นเตาปฏิกรณ์เพียง 1 ใน 2 ตัวของญี่ปุ่นที่ยังคงเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า
โฆษกของ คิวชู อิเล็กทริก ระบุว่า มีประชาชนราว 29,000 ครัวเรือนประสบปัญหาไฟฟ้าดับตอนที่ภูเขาไฟปะทุใหม่ๆ แต่ทางโรงไฟฟ้าได้แก้ไขปัญหาเรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนไฟ” รูปเกือกม้า จุดเป็นเชื่อมต่อของแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่นรอบๆ มหาสมุทรแปซิฟิก และยังมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่กว่า 100 ลูก
เมื่อปี 2014 ภูเขาไฟออนทาเกะทางตอนกลางของญี่ปุ่นได้ปะทุขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า คร่าชีวิตนักปีนเขาไปถึง 63 คน ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติจากภูเขาไฟครั้งเลวร้ายที่สุดของญี่ปุ่นในรอบเกือบ 90 ปี