รอยเตอร์ - พายุรุนแรงและฟ้าผ่ามากกว่า 21,000 ครั้งในช่วงเวลา 12 ชั่วโมง ทำไฟฟ้าดับทั่วรัฐเซาท์ออสเตรเลียในวันพุธ(28ก.ย.) จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่แดนจิงโจ้ ขณะที่ภัยธรรมชาติดังกล่าวทำให้ต้องปิดท่าเรือต่างๆและก่อความวุ่นวายแก่เหล่าผู้เดินทาง
เซาท์ออสเตรเลีย เป็นรัฐที่มีประชากร 1.7 ล้านคน มากที่สุดเป็นลำดับ 5 ของออสเตรเลียและมีแอดิเลดเป็นเมืองเอก โดยรัฐแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตไวน์หลักและศูนย์กลางการผลิตแบบดั้งเดิม
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่าแนวปะทะอากาศเย็นกำลังจะเคลื่อนผ่านรัฐแห่งนี้พร้อมกับความกดอากาศต่ำรุนแรงในวันพฤหัสบดี(29ก.ย.) "เราจะเผชิญลมกำลังแรงและทะเลคลื่นลมแรง(ทั่วทางใต้ของประเทศ) เช่นเดียวกับฝนตกหนักและฝนฟ้าคะนอง ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงสุด"
เอสเอ บริษัทเครือข่ายพลังงาน เผยว่าอยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมเครือข่ายส่งกระแสไฟฟ้า "มีฟ้าผ่ามากกว่า 21,000 ครั้งในช่วง 12 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงเที่ยงของเมื่อวาน ตามแนวชายฝั่งตะวันตก และผลก็คือมันก่อความเสียหายแก่เครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าของเรา"
รัฐแห่งนี้ต้องอยู่ในสภาพหยุดยิ่ง ท่าเรือปิดทำการ รถไฟและรถรางหยุดให้บริการ ไฟจราจรใช้งานไม่ได้ และนักเดินทางต้องประสบปัญหาล่าช้านานหลายชั่วโมง
เซาท์ออสเตรเลีย พึ่งพิงการเข้าถึงไฟฟ้าจากชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียผ่านการเชื่อมต่อทางพลังงานกับรัฐเพื่อนบ้านอย่างวิคตอเรีย ซึ่งการเชื่อมต่อดังกล่าวประสบกับเหตุขัดข้องในวันพุธ(28ก.ย.) โดยทางโฆษกของออสเตรเลีย เอเนอร์จี มาร์เก็ต โอเปอเรเตอร์ ซึ่งปฏิบัติการระบบไฟฟ้าทางใต้และทางตะวันออกของออสเตรเลีย เผยว่าไม่มีไฟฟ้าจากวิคตอเรียจ่ายเข้าสู่เซาต์ออสเตรเลีย
ไซมอน เอ็มม์ส ผู้จัดการบริหารของอิเล็กทราเน็ต บอกกับเอบีซี เรดิโอ ว่าในขณะที่รัฐพยายามจ่ายไฟทดแทน แต่กลับต้องประสบกับภาวะแรงดันไฟฟ้าต่ำมากอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากพายุได้ก่อความเสียหายแก่สายไฟฟ้า และปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดไฟฟ้าดับทั่วรัฐ
โฆษกของอิเล็กทราเน็ต เผยว่ากำลังกู้คืนไฟฟ้าในพื้นที่บางส่วนของแอดิเลด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าไฟจะกลับมาติดทั่วรัฐเมื่อไหร่