รอยเตอร์ - ปักกิ่งสั่งการสอบบรรดาผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกวางซอน แบงกิง คอร์โปเรชัน( Kwangson Banking Corporatio ) ซึ่งตั้งสาขาอยู่ในเมืองพรมแดนจีนบริเวณเมืองแดนดอง (Dandong)ติดเกาหลีเหนือ หลังเชื่อธนาคารแดนโสมแห่งนี้อาจเป็นแหล่งการเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน
รอยเตอร์รายงานวันนี้(26 ก.ย)ว่า หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้จุงอังเดลี(JoongAng)รายงานในวันจันทร์(26 ก.ย)ว่า ทางการปักกิ่งเข้าตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงของธนาคารสัญชาติเกาหลีเหนือที่เปิดสาขาในจีนหลังพบ อาจเป็นท่อน้ำเลี้ยงทางการเงินให้กับโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเปียงยาง
ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเนียบขาวออกแถลงการณ์อ้างว่า จีนและสหรัฐฯได้ยอมตกลงร่วมมือในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและช่องทางการบังคับใช้กฎหมายหลังจากที่เปียงยางได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ในวันที่ 98 กันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในความร่วมมือระหว่างทั้งสองชาติยังรวมไปถึง การสกัดด้านการเงินของเลียออนนิง ฮองซียง อินดัสเตรียล (Liaoning Hongxiang Industrial) ธุรกิจควบรวมของจีนที่มีพรรคคอมมิวนิสต์ทำหน้าที่บริหาร ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีความเห็นว่า มีความเกี่ยวข้องในการสนับสนุนโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จากการเปิดเผยของสื่อธุรกิจ วอลสตรีทเจอร์นัลในขณะนั้น รอยเตอร์รายงาน
และในการรายงานล่าสุดของจุงอังเดลียังเปิดเผยต่อว่า ในขณะนี้เจ้าหน้าที่จีนกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเจ้าหน้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกวางซอน แบงกิง คอร์โปเรชัน( Kwangson Banking Corporation)ของสาขาที่ตั้งอยู่ในเมืองแดนดอง (Dandong)ของจีนที่มีพรมแดนติดเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้ขึ้นบัญชีดำธนาคารแห่งนี้ในปี 2009 ภายใต้คำสั่งจับตาหน่วยงานและองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือการลักลอบค้าอาวุธของเกาหลีเหนือเนื่องมาจากธนาคารนี้มีความเกี่ยวข้องในเทคโนโลยีที่สามารถถูกนำมาใช้ได้ 2 ด้าน(การทหารและการพลเรือน)
โดยแหล่งข่าวได้เปิดเผยกับสื่อจุงอังเดลีว่า “ผู้จัดการสาขา รีอิล โฮ( Ri Il Ho )ได้เดินทางกลับเข้าไปยังเกาหลีเหนือช่วยคราว ดังนั้นรองผู้จัดการสาขาจึงต้องถูกทางการจีนสอบสวนแทน” อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่ได้เปิดเผยชื่อของแหล่งข่าว แต่ระบุแต่เพียงว่า เป็นผู้รู้เรื่องภายในเกาหลีเหนือเป็นอย่างดี
รอยเตอร์รายงานต่อว่า เดือนมีนาคมปีนี้ หลังจากที่ยูเอ็นประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือล่าสุด ซึ่งทางองค์การสหประชาชาติได้ทำการประกาศขยายการขอบเขตการยึดทรัพย์ โดยประกาศสั่งยึดทรัพย์สินทั้งหมดของธนาคารกวางซอน แบงกิง คอร์โปเรชันที่อยู่ในต่างแดน
และทำให้ธนาคารกวางซอน แบงกิง คอร์โปเรชันได้ทำการย้ายที่ตั้งสาขาไปยังชั้น 13 ของตึกที่เป็นที่ตั้งของธุรกิจเลียออนนิง ฮองซียง อินดัสเตรียล และสถาบันการเงินของเปียงยางยังคงเปิดให้บริการต่อไปถึงแม้จะไม่มีการปิดป้ายประกาศด้านนอกห้องเพื่อเปิดเผยชื่อของธนาคารให้คนภายนอกได้ล่วงรู้ก็ตาม หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้รายงานต่อ
รอยเตอร์ชี้ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันเอเชียศึกษาเพื่อนโยบายศึกษาที่มีฐานอยู่ในกรุงโซล และหน่วยงานธิงแทงก์ C4ADS ที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ออกมาระบุว่า มีการค้ามูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในช่วงตั้งแต่มกราคม 2011 – กันยายน 2015 เกิดขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือและกลุ่มธุรกิจ เลียออนนิง ฮองซียง กรุ๊ป ซึ่งมีหลักฐานจากเว็บไซต์ของบริษัทที่อ้างอิงว่า มีการค้ากับเกาหลีเหนือจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่เมืองแดนดองและศุลการกรไม่ต่ำกว่า 20 คนต้องถูกสอบสวนในการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับหม่า เซียฮอง( Ma Xiaohong)ผู้ก่อตั้ง เลียออนนิง ฮองซียง และยังคงเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่ม จุงอังเดลีรายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่อ้างว่า รู้เรื่องภายในการค้าระหว่างปักกิ่งและเปียงยางอย่างดี
และพบว่าทรัพย์สินบางส่วนของหม่าและญาติของเธอและผู้เกี่ยวข้องถูกยึดโดยยึดชั่วคราวโดยเจ้าหน้าที่จีนในไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ รายงานจากวอลสตรีทเจอร์นัล
สื่อเกาหลีใต้ยังรายงานทิ้งท้ายว่า นอกจากนี้ยังพบว่า มี“เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ” ที่อ้าศัยอยู่ในจีนได้ถูกสอบสวนด้วยเช่นกัน