รอยเตอร์ - อินเดียลงนามข้อตกลงซื้อเครื่องบินขับไล่ราฟาลจำนวน 36 ลำจากฝรั่งเศสในวันนี้ (23 ก.ย.) คิดเป็นมูลค่าราว 8.7 พันลล้านดอลลาร์ การซื้อเครื่องขับไล่ครั้งใหญ่ครั้งแรกของประเทศนี้ในรอบ 20 ปี และแรงกระตุ้นสำหรับแผนการของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ที่จะปรับปรุงกองบินที่ล้าสมัย
กองทัพอากาศเหลือกองบินอยู่ 33 กองบิน แต่ต้องการที่จะมี 45 กองบินเพื่อเผชิญหน้ากับทั้งจีนซึ่งมีข้อพิพาททางพรมแดนด้วยและคู่อริเก่าแก่อย่างปากีสถานที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส ฌอง-อีฟส์ เลอ ดริออง ลงนามข้อตกลงนี้กับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย มาโนฮาร์ พาร์ริการ์ ในกรุงนิวเดลี สิ้นสุดการโต้เถียงนานเกือบ 18 เดือนเกี่ยวกับเงื่อนไขระหว่างนิวเดลีและบริษัทผู้ผลิต Dassault Aviation
กระทรวงกลาโหมของแดนภาระตะระบุว่า พวกเขาจะยืนยันราคาที่แน่นอนภายในวันนี้ (23 แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงรายหนึ่งระบุว่ามันอยู่ที่ 8.7 พันล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศเตือนมานานหลายปีในเรื่องระยะห่างด้านขีดความสามารถกับจีนและปากีสถานโดยไม่มีเครื่องบินทันสมัยลำใหม่ๆ ในขณะที่กองบินล้าสมัยของอินเดียที่ส่วนใหญ่สร้างโดยรัสเซียถูกปลดประจำการและการผลิตเครื่องบินภายในประเทศถูกเลื่อนเวลาออกไป
เดิมทีอินเดียสั่งราฟาลกับบริษัท Dassault เป็นจำนวน 126 ลำในปี 2012 หลังจากเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์รุ่นที่ 4 นี้ชนะคู่แข่งในกระบวนการคัดสรรที่กินเวลา 10 ปี แต่การเจรจากลับพังลงในภายหลัง
โมดีซึ่งประกาศว่าจะทำให้กองทัพอินเดียทันสมัยด้วยงบประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ ได้เข้าแทรกแซงด้วยตัวเองในปี 2015เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการสั่งในจำนวนที่น้อยกว่าและเป็นแรงกระตุ้นระยะสั้นให้กับกองทัพอากาศในขณะที่เขาพิจารณาตัวเลือกต่างๆ สำหรับการปรับปรุงใหม่โดยพื้นฐานที่มากกว่านี้
เครื่องบินราฟาลชุดแรกคาดว่าจะมาถึงในปี 2019 และอินเดียจะมีทั้ง 36 ลำภายใน 6 ปี
บริษัท Dassault Aviation ระบุในถ้อยแถลงว่า พวกเขายินดีการลงนามสัญญาครั้งนี้
