เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online - เจ้าหน้าที่ทางการปากีสถานเผยในวันเสาร์ (17 ก.ย.) โดยระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันศุกร์ (16) ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเขตโมห์มานด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 36 ราย หลังจากที่ผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้หลายรายได้เสียชีวิตเพิ่มในภายหลังที่โรงพยาบาล
ปาชิน กูล หัวหน้าหน่วยตำรวจชนเผ่าประจำเขตโมห์มานด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเป็นผู้ออกมาอัปเดตยอดความสูญเสียดังกล่าวในวันเสาร์ (17) โดยระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีโดยมือระเบิดฆ่าตัวตายในครั้งนี้มีเด็กๆ รวมอยู่ด้วยหลายราย
ก่อนหน้านี้ ในวันศุกร์ (16) คนร้ายรายหนึ่งได้ตะโกนถ้อยคำ อัลลอหุ อักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่) และจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายที่ผูกไว้กับตัวกลางมัสยิดที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนกว่า 200 ชีวิตที่กำลังประกอบพิธีสวดมนต์เย็นประจำวันศุกร์ในหมู่บ้านดังกล่าวทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เขตปกครองตนเองชนเผ่า (Federally Administered Tribal Areas : FATA) ตามแนวชายแดนปากีสถานที่ติดต่อกับอัฟกานิสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 รายในเบื้องต้น และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บในเวลานั้นอีกราว 30 คน
หลังเกิดการระเบิดหลายชั่วโมง กลุ่มติดอาวุธญะมาอัต-อูล-อะห์ราร์ ที่แตกตัวออกมาจากกลุ่มตอลิบานออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีนองเลือดครั้งนี้ และว่า เป้าสังหารที่แท้จริงของพวกเขาเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลปากีสถาน
ทั้งนี้ ภูมิภาคต่างๆ ตามแนวชายแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถาน ถือเป็นที่หลบภัยของพวกอัลกออิดะห์ ตอลิบาน หรือกลุ่มนักรบอิสลามิสต์อื่นๆ มาช้านาน ขณะที่ในปี 2014 กองทัพปากีสถานได้เปิดปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ในพื้นที่อื่นๆ ของเขตปกครองตนเองชนเผ่า ซึ่งรวมถึงเขตวาซีริสถานเหนือและใต้ เพื่อปราบปรามพวกนักรบหัวสุดโต่งที่มักโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐบาลและพลเรือนเป็นประจำ
ขณะที่นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ผู้นำปากีสถาน ประณามเหตุระเบิดและบอกว่าการโจมตีของพวกก่อการร้ายว่า มิอาจสั่นคลอนความตั้งใจของรัฐบาลในการกำจัดภัยก่อการร้ายให้หมดไปจากประเทศ
ความปลอดภัยในปากีสถานดีขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยฝ่ายทหารบอกว่าเหตุการณ์ก่อการร้ายลดลงจาก 128 ครั้งในปี 2013 เหลือ 74 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ถึงแม้ในเวลานี้พวกนักรบหัวรุนแรงจะยังกลับมาเดินหน้าก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่อง
