เอเจนซีส์ - เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวบ้าน เมื่อแม่น้ำสายหนึ่งได้กลายเป็นสีแดงฉาน ที่เมืองโนริลสค์ ประเทศรัสเซีย ทำให้ทางการต้องเร่งตรวจสอบ โดยเกรงว่าอาจมีท่อแตกจนทำให้เกิดการปนเปื้อนในแม่น้ำ
เมื่อวันอังคาร ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมาก ได้พากันแชร์รูปแม่น้ำดัลดิแคน ที่กลายเป็นสีแดงผิดธรรมชาติ โดยมีบางรายระบุว่า มันเปลี่ยนสีมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้ว
ชาวโซเชียลจำนวนหนึ่งได้ชี้แนะว่า แร่เหล็กที่อยู่ใต้ดินเป็นตัวการที่ทำให้แม่น้ำเปลี่ยนสี แต่ก็มีคนอื่นๆ บอกว่าขยะอุตสาหกรรมน่าจะเป็นตัวการมากกว่า เพราะแม่น้ำสายนี้ไหลผ่านใกล้ "โรงงานโลหะนาเดซห์ดา" ซึ่งเป็นของ "โนริลสค์ นิกเกิล" ผู้ผลิตนิกเกิลและแพลเลเดียมรายใหญ่ที่สุดในโลก
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของรัสเซียระบุในคำแถลงเมื่อวันพุธว่า กำลังทำการสืบสวนตามคำร้องเรียนที่ว่ามีสารเคมีที่ไม่รู้จักได้ปนเปื้อนลงแม่น้ำ โดยเป็นไปได้ว่าอาจมาจากท่อของ "โนริลสค์ นิกเกิล" ได้เกิดแตกขึ้นมา
สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตี รายงานว่า โนริลสค์ นิกเกิล ได้ปฏิเสธเรื่องที่สารเคมีจากอุตสาหกรรมได้รั่วไหลลงสู่แม่น้ำดัลดิแคน ทางบริษัทยังบอกด้วยว่า สีของแม่น้ำในวันนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากสภาพปกติที่เคยเป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม จะลดการทำงานในกระบวนการผลิตชั่วคราว ในช่วงเฝ้าสังเกตสถานการณ์ ขณะที่สำนักงานนายกเทศมนตรีเมืองโนริลสค์ก็บอกว่า น้ำประปาในเมืองได้มาจากแหล่งน้ำอื่น
จากข้อมูลของ เดนิส โคเชวอย นักศึกษาปริญญาเอกที่สถาบันเวอร์นาดสกี ด้านวิชาเคมีเกี่ยวกับธรณีศาสตร์ และการวิเคราะห์ทางเคมี ผู้ซึ่งกำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับมลภาวะในพื้นที่ดังกล่าว ได้ระบุว่า โนริลสค์ นิกเกิล ได้ปล่อยสารละลายทางเคมีจากนาเดซห์ดาผ่านท่อไปสู่เขื่อนกักเก็บหางแร่ที่อยู่ใกล้ๆ แถมยังสูบโลหะเข้มข้นจากโรงงานแร่ไปนาเดซห์ดา
"มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ที่ทำให้ท่อแตกจนสารเคมีไหลลงสู่แม่น้ำ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมน้ำเปลี่ยนสี" โคเชวอย บอกเดอะการ์เดียน
ชาวบ้านในเมืองโนริลสค์รายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพในอินสตาแกรม พร้อมระบุว่า "มีการรั่วไหลจากโรงงานนาเดซห์ดาลงสู่แม่น้ำ ใครได้เห็นก็ต้องกลัวแน่ ยังมีคนไปเก็บเห็ดกับเบอร์รีอยู่เลย"
ขณะที่อีกหนึ่งความเห็นมีการระบุถึงข้อความในคัมภีร์ไบเบิ้ลที่พระเจ้าบอกกับโมเสสและอารอนไว้ว่า "เล่นงานน้ำในแม่น้ำไนล์ แล้วมันจะเปลี่ยนไปเป็นสีเลือด"
โนริลสค์ ถูกพัฒนาขึ้นมาในฐานะค่ายแรงงานในปี 1935 เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องฤดูหนาวที่โหดร้าย ช่วงเวลาที่มีแต่กลางคืนตลอด 24 ชั่วโมงยาวนานถึง 2 เดือน รวมถึงเรื่องมลภาวะอุตสาหกรรมเป็นพิษในระดับสูง