เอเอฟพี - รัสเซียประกาศให้สถาบันสำรวจความคิดเห็นอิสระรายใหญ่แห่งสุดท้ายของแดนหมีขาวเข้าข่ายเป็น “เอเยนต์ต่างชาติ” (foreign agent) ท่ามกลางเสียงติเตียนจากบรรดานักวิจารณ์ซึ่งมองว่ารัฐบาลกำลังใช้อำนาจปิดปากภาคประชาสังคมมากขึ้นทุกขณะ
กระทรวงยุติธรรมรัสเซียแถลงเมื่อวันจันทร์ (5 ก.ย.) ว่า ศูนย์เลวาดา (Levada Centre) ซึ่งทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในเรื่องการเมืองอย่างสม่ำเสมอ “ถูกจัดอยู่ในกลุ่มองค์กรไม่แสวงผลกำไรซึ่งปฏิบัติงานเป็นเอเยนต์ต่างชาติ”
คำตัดสินนี้มีขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งรัฐสภาเกิดขึ้นในรัสเซีย
เลฟ กุดคอฟ ผู้อำนวยการศูนย์เลวาดา ประณามคำตัดสินของรัฐบาลว่าเป็น “การเซ็นเซอร์ทางการเมือง” ซึ่งจะทำให้ศูนย์ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้
“สิ่งที่จะตามมากับคำตัดสินนี้ ถือเป็นหายนะสำหรับพวกเรา” เขาให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ผลสำรวจของศูนย์เลวาดาถือเป็นมาตรวัดความคิดเห็นพลเมืองรัสเซียซึ่งสื่อต่างชาติให้ความเชื่อถือ และนำไปอ้างอิงมากที่สุด เนื่องจากโพลรายใหญ่อื่นๆ รวมถึง VTsIOM ล้วนแต่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลหมีขาวทั้งสิ้น
กระทรวงยุติธรรมรัสเซียอ้างว่าคำตัดสินดังกล่าวเป็นผลมาจากการตรวจสอบเอกสารซึ่งไม่ได้ประกาศให้ทราบ และไม่ให้เหตุผลเพิ่มเติมมากกว่านี้
กฎหมายรัสเซียกำหนดองค์กรซึ่งทำกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการเมือง และได้รับทุนสนับสนุนจากภายนอกประเทศ จะต้องจดทะเบียนเป็น “เอเยนต์ต่างชาติ” ซึ่งคำคำนี้คนรัสเซียส่วนใหญ่ตีความว่าไม่ต่างจาก “สายลับ”
เอ็นจีโอในรัสเซียต่างโอดครวญว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพวกเขา และยังเป็นการปิดกั้นภาคประชาสังคมด้วย
กฎหมายนี้เคยถูกใช้เป็นเครื่องมือเล่นงานองค์กรสังเกตการณ์การเลือกตั้ง Golos รวมไปถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนใหญ่ๆ เช่น คณะกรรมการต่อต้านการทรมาน (Committee Against Torture) และสมาคมเมมโมเรียล (Memorial)
กุดคอฟระบุว่า ศูนย์เลวาดาของเขาได้รับทุนสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการเพื่อการวิจัยเชิงพาณิชย์ ตลอดจนบริษัท มูลนิธิ และมหาวิทยาลัยต่างชาติ ซึ่งหลังจากนี้ทางองค์กรก็จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของรัฐ “แม้รู้ว่ามีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะสำเร็จก็ตาม”
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประณามคำตัดสินของมอสโก พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เคยทำงานร่วมกับศูนย์เลวาดามาแล้วในอดีต
“เราเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้ต่อศูนย์เลวาดาไม่มีเหตุผลรองรับ... แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น เราเกรงว่าขอบเขตของกฎหมายฉบับนี้จะบั่นทอนการทำงานของเอ็นจีโอ และองค์กรภาคพลเรือนอื่นๆ ในรัสเซียที่มีอุดมการณ์ส่งเสริมประชาธิปไตย” มาร์ก โทเนอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน