ปธน.ปินส์ของขึ้นด่าโอบามา “ลูกกะหรี่” ก่อนมีคิวคุยตัวต่อตัวนอกเวทีประชุมสุดยอดผู้นำที่ลาว

เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ เรียก บารัค โอบามา ว่า “ลูกกะหรี่” ในวันจันทร์ (5 ก.ย.) ขณะที่เขาประกาศจะไม่รับคำสั่งสอนของผู้นำสหรัฐฯ ในประเด็นสิทธิมนุษยชนเมื่อทั้งสองฝ่ายมีกำหนดพบปะกันที่ประเทศลาวสัปดาห์นี้ ด้านประธานาธิบดีอเมริกาพยายามรักษาท่าที แต่ก็ส่อเค้าว่าอาจยกเลิกกำหนดการหารือแบบทวิภาคีระหว่างสองฝ่าย

ดูเตอร์เตใช้ภาษาที่เผ็ดร้อนดังกล่าวเพราะหงุดหงิดต่อคำเตือนว่าเขาจะต้องเผชิญคำถามต่างๆ นานาจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามยาเสพติดในฟิลิปปินส์ที่คร่าชีวิตมากกว่า 2,400 ศพในช่วงเวลาแค่ 2 เดือน

“คุณจำเป็นต้องรู้จักให้ความเคารพ ไม่ใช่แค่โยนคำถามและถ้อยแถลงออกมา ลูกกะหรี่เอ้ย ผมจะสาปแช่งคุณในที่ประชุมนั้น” ดูเตอร์เตแถลงต่อผู้สื่อข่าวก่อนหน้าบินไปยังลาวเพื่อร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ “เราจะเกลือกกลิ้้งอยู่ในโคลนอย่างกับหมู หากว่าคุณทำแบบนั้นกับผม”

ดูเตอร์เตมีกำหนดพูดคุยแบบทวิภาคีกับโอบามาในช่วงบ่ายวันอังคาร (6 ก.ย.) รอบนอกการประชุมของเหล่าผู้นำโลกที่มีอาเซียนเป็นเจ้าภาพ โดยคราวนี้จัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว

อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากมีคำพูดรุนแรงออกมาจากนายดูเตอร์เต ทางฝั่งของนายโอบามาก็แสดงความสงสัยว่าการพบปะหารือกันจะเกิดขึ้นหรือไม่ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกดูเตอร์เตว่า “ชายผู้มีสีสัน” และสั่งให้คณะทำงานของเขาทบทวนว่าการประชุมทวิภาคีดังกล่าวจะมีประโยชน์หรือเปล่า

นายดูเตอร์เต วัย 71 ปี ได้รับเลือกในเดือนพฤษภาคมจากนโยบายหาเสียงทำสงครามกับพวกค้ายาเสพติด ซึ่งจะได้เห็นผู้ต้องสงสัยหลายพันคนถูกสังหาร

ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (4 ก.ย.) พบว่านับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 2,400 รายในปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดของตำรวจและการใช้ศาลเตี้ย

ประธานาธิบดีโอบามากล่าวรอบนอกการประชุมจี20 ที่เมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ว่า วอชิงตันตระหนักดีว่ายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของฟิลิปปินส์ แต่เขายืนกรานว่าจะไม่ปลีกตัวจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อแนวทางการจัดการกับประเด็นนี้ของรัฐบาลมะนิลา

“เรื่องเกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้กับอาชญากรรมและขบวนการค้ายาเสพติดเป็นหนึ่งในประเด็นร้ายแรงของเราทุกคน เราต้องดำเนินการให้ถูกทาง” โอบามากล่าว “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเราได้พบปะกันหรือเมื่อใดก็ตามที่ได้หารือกัน มันจะเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา และความคาดหวังของผมคือมันควรถูกจัดการอย่างสร้างสรรค์”

นายดูเตอร์เตปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากโบสถ์คาทอลิก กลุ่มสิทธิมนุษยชน เหล่า ส.ส. และสหประชาชาติ ด้วยความขุ่นเคือง และในวันจันทร์ (5 ก.ย.) เขาประกาศว่าปฏิบัติการนองเลือดจะเดินหน้าต่อไป ในการมุ่งสู่จุดหมายกำจัดยาเสพติดผิดกฎหมายให้พ้นไปจากฟิลิปปินส์

“จะมีคนผู้ฆ่ามากกว่านี้ จะมีคนถูกฆ่าอีกมากจนกว่าคนค้าจะหมดไปจากท้องถนน จนกว่าพวกผลิตยาเสพติดคนสุดท้ายจะถูกสังหาร เราจะเดินหน้าต่อและผมจะเดินหน้าต่อ” เขากล่าว

นอกจากนี้แล้วนายดูเตอร์เตยังประกาศกร้าวว่าเขาจะไม่รับคำสั่งของสหรัฐฯ อดีตผู้ปกครองอาณานิคมของฟิลิปปินส์ และไม่สนใจด้วยว่าประธานาธิบดีโอบามาจะรู้สึกอย่างไร “ผมไม่สนใจหรอกว่าจะมีคนมาคอยจับตาดูพฤติกรรมของผม” เขากล่าว

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็วด้านคำพูดตอบโต้อันก้าวร้าวต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือความเห็นอื่นใดที่ไม่เข้าหู โดยก่อนหน้านี้เขาเคยด่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสและทูตสหรัฐฯ ประจำมะนิลาว่าลูกกะหรี่เช่นกัน