รอยเตอร์ - เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ทางการอิตาลีจัดงานพิธีศพหมู่เหยื่อผู้เสียชีวิต 35 ราย จากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.2 ของเช้าวันพุธ (24 ส.ค.) รวมทารกวัย 18 เดือน และเด็กหญิงวัย 9 ปี ตัวเลขล่าสุดยอดผู้เสียชีวิต 291 คน และจำนวนคนที่ยังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 387 คน ด้านนายกรัฐมนตรีอิตาลี มัตเตโอ เรนซี ได้ให้คำมั่นกับญาติผู้เสียชีวิตกลางงานศพ “เราจะหาทางออกร่วมกัน” สถาบันธรณีวิทยาอิตาลี ชี้ เกิดอาฟเตอร์ช็อกมาไม่ต่ำกว่า 1,350 ครั้ง
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ว่า ท่ามกลางพิธีศพหมู่เหยื่อแผ่นดินไหวในวันพุธ (24 ส.ค.) มีเด็กทารกวัย 18 เดือน และเด็กหญิงวัย 9 ปี รวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งสองเป็นหนึ่งในเด็กจำนวน 21 คน ที่ต้องจบชีวิต
และในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยอิตาลียังคงเดินหน้าค้นหาไม่หยุดในเมืองอมาตริเชซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะรับรู้ว่า มีความหวังริบหรี่เต็มที่ในการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่ดินไหวที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 7 ปี
รอยเตอร์รายงานว่า ในวันเสาร์ (27 ส.ค.) ทางอิตาลีสามารถพบร่างเพิ่มขึ้นอีก 9 ร่าง รวมไปถึง 3 ร่าง ที่สามารถถูกดึงขึ้นมาได้จากซากปรักหักพังในจุดโรงแรมโฮเตลโรมาในช่วงข้ามคืน ซึ่งแค่เฉพาะในเมืองอมาตริเชแห่งเดียว จำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 230 คน ทั้งชาวเมืองอมาตริเช และนักท่องเที่ยว
นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่อิตาลีให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า มีคนยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 387 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพราะทนพิษบาดเจ็บไม่ไหว
รอยเตอร์รายงานว่า หนึ่งในกลุ่มผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาในสภาพที่ยังมีชีวิตรอดจากซากปรักหักพัง คือ เด็กหญิงที่มีชื่อว่า จอร์เจีย (Giorgia) ที่ได้มีอายุครบ 4 ขวบ เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ในขณะที่น้องสาวตัวน้อยจูเลีย (Giulia) เป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิต ซึ่งได้มีการประกอบพิธีในวันเสาร์ (27 ส.ค.)
และบนโลงศพขนาดเล็กที่บรรจุร่างจูเลีย มีข้อความจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งติดไว้ข้างโลงมีข้อความว่า “สวัสดีเจ้าตัวน้อย พวกเราขอโทษที่มาถึงช้าไป หนูได้หมดลมหายใจไปแล้ว แต่พวกเราอยากให้หนูที่อยู่บนฟากฟ้ารับรู้ว่า พวกเราได้ทำอย่างสุดความสามารถเพื่อนำร่างของหนูออกมา”
ท่ามกลางพิธีศพที่ประกอบขึ้นอย่างเป็นทางการ ญาติบางคนกอดโลงศพที่บรรจุคนที่รักไว้ บางส่วนนั่งคุกเข่าบนพื้นกอดหีบศพที่มีดอกไม้ประดับไว้โดยรอบ ต่างร่ำไห้อาลัยในความสูญเสีย รอยเตอร์รายงานว่า หนึ่งในนั้นมีชายชาวอิตาลี 1 คน นั่งอยู่บนรถเข็นในขณะที่ขาเต็มไปด้วยแผล และเขาได้ค้อมศีรษะลง และขณะที่อีกหลายคนได้กอดภาพผู้เสียชีวิตไว้แน่น
และในขณะที่กำลังมีการอ่านรายชื่อผู้สูญเสีย ประชาชนจำนวนมากที่ร่วมพิธีบริเวณด้านนอก ต่างตบมือด้วยเสียงดัง และเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับญาติผู้เสียชีวิต
นายกรัฐมนตรีอิตาลี มัตเตโอ เรนซี และประธานาธิบดีอิตาลี เซอร์จิโอ มัตตาเรลลา ได้ยืนคุยกับญาติผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง หลังจากการประกอบพิธีได้เสร็จสิ้น โดย เรนซีได้กล่าวกับหนึ่งในญาติอายุยังน้อยของหนึ่งในเหยื่อแผ่นดินไหว ว่า “เราจะหาทางออกร่วมกันในการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือการต้องไม่ยอมแพ้”
รอยเตอร์รายงานว่า ทางการอิตาลีได้ประกาศรายชื่อเหยื่อผู้เสียชีวิตจำนวน 181 คน ซึ่งเหยื่ออายุน้อยที่สุดคือ 5 เดือน ในขณะที่ผู้ที่เสียชีวิตอายุมากที่สุด คือ 93 ปี และในส่วนของชาวต่างชาติ พบว่า มีสัญชาติโรมาเนีย 6 ราย สัญชาติอังกฤษ 3 ราย หญิงชาวสเปน 1 ราย ชาวแคนาดา 1 ราย และ ชาวอัลเบเนีย 1 ราย เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ อิตาลีได้ทำคดีสอบสวน ซึ่งรวมไปถึงการถล่มของหอนาฬิกาในเมืองอักคูโมลิ ที่ได้ล้มครืนถล่มลงบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง สังหารครอบครัวที่มีสมาชิก 4 ราย
โดยอัยการอิตาลี Giuseppe Saieva ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมการสอบสวน ได้เปิดเผยว่า “หากอาคารเหล่านี้ถูกก่อสร้างตามแบบที่กระทำในญี่ปุ่น คงจะไม่มีเรื่องสะเทือนใจเช่นนี้เกิดขึ้น” Saieva ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อิตาลี ลา รีพับบลิกา (la Repubblica)
รอยเตอร์รายงานว่า เรนซีได้ให้คำมั่นกับประชาชนอิตาลีของเขาในการที่จะสร้างชุมชนที่แตกสลายให้กลับมาอีกครั้ง ในขณะที่ เซอร์จิโอ ปิรอซซิ (Sergio Pirozzi) นายกเทศมนตรีเมืองอมาตริเช ได้ร้องขอให้รัฐบาลอิตาลีนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน “สิ่งที่เราต้องการ คือ การสร้างเมืองใหม่ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักการเมืองอิตาลีในการที่จะให้คำมั่นต่อสัญญาในเรื่องนี้” ปิรอซซิ กล่าวต่อประธานาธิบดีอิตาลี มัตตาเรลลา
และในช่วงข้ามคืนยังคงพบว่า อาฟเตอร์ช็อกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความแรงมากที่สุดวัดได้ที่ระดับ 4.2 โดยสถาบันธรณีวิทยาอิตาลีออกแถลงการณ์ ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.2 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นไปแล้วทั้งหมด 1,350 ครั้ง