รอยเตอร์ - กองกำลังตุรกีจะยังคงอยู่ในซีเรียต่อไปอีกนานจนกว่าจะกวาดล้างพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) และนักรบอื่นๆหมดไปจากชายแดน จากคำประกาศของนายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริมในวันศุกร์(26ส.ค.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากพวกกบฏเคิร์ดลงมือโจมตีด้วยคาร์บอมบ์สังหารตำรวจอย่างน้อย 11 นาย
เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ฆ่าตัวตายถล่มกองบัญชาการตำรวจในเมืองจีซเร (Cizre) ตามแนวชายแดนซีเรียและอิรัก มีขึ้น 2 วันหลังจากตุรกีเปิดปฏิบัติการบุกซีเรียหนใหญ่ครั้งแรก ที่มีเป้าหมายขับไล่พวกไอเอสออกจากไปพื้นที่ตามแนวชายแดนและหยุดการขยายอิทธิพลของกองกำลังชาวเคิร์ด
ขณะเดียวกัน นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้พบปะกันที่เจนีวาในวันศุกร์(26ส.ค.) ในความพยายามบรรลุข้อตกลงในการสู้รบกับพวกไอเอสในซีเรีย โดยตามทฤษฎีแล้วข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นการเปิดทางสำหรับการเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดยื้อมากว่า 5 ปี
ตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกนาโต้และเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรนานาชาติต่อต้านไอเอสที่นำโดยสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับเหตุนองเลือดหลายต่อหลายครั้งในปีนี้ ที่กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง แต่ก็มีความกังวลว่าพวกนักรบเคิร์ดในซีเรียจะเข้ายึดครองพื้นที่กว้างขวางตามแนวชายแดนและอาจกระตุ้นให้กบฏเคิร์ดอาจหาญดำเนินการแบบเดียวกันในแผ่นดินของตุรกี
ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิป แอร์โดอัน เหตุระเบิดในจังหวัดเซอร์นัค จะทำให้ตุรกีมีความมุ่งมั่นมากขึ้นในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายทั้งภายในและต่างประเทศ ส่วน ยิลดิริม บอกว่าไม่มีข้อสงสัยเลยว่ากลุ่มกบฏพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน ( PKK ) ที่ก่อความไม่สงบมานานกว่า 3 ทศวรรษ เพื่ออำนาจในการปกครองตนเองของชาวเคิร์ด อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
"เรากำลังปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของตุรกี เรากำลังปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรียด้วย เป้าหมายขององค์กรก่อการร้ายพวกนี้คือ จัดตั้งรัฐในประเทศต่างๆ แต่ไม่มีวันที่พวกเขาจะทำสำเร็จ" ยิลดิลิมกล่าว "เราจะเดินหน้าปฏิบัติการในซีเรีย จนกว่าจะได้สามารถรับประกันอย่างสมบูรณ์ต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองของเราและความปลอดภัยตามชายแดนของเรา เราจะเดินหน้าจนกว่าไอเอสและเครือข่ายก่อการร้ายอื่นๆจะหมดไป"
ซีเรีย ประณามปฏิบัติการดังกล่าว ที่ได้เห็นกองกำลังพิเศษตุรกี รถถังและเครื่องบินรบบุกรุกดินแดนเพื่อสนับสนุนกบฏซีเรีย จนสามารถเข้ายึดเมืองจาราบลุสจากไอเอสได้อย่างรวดเร็วในวันพุธ(24ส.ค.)
พันธมิตรของ 23 พรรคชาวเคิร์ดในซีเรีย ก็ประณามปฏิบัติการของตุรกีเช่นกันในวันศุกร์(26ส.ค.) พร้อมเรียกร้องให้อังการาถอนกำลังพลออกไปจากประเทศทั้งหมด และกล่าวหาตุรกีพยายามยึดซีเรีย ภายใต้ข้ออ้างต่อสู้กับก่อการร้าย
นายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯที่เข้าพบกับนายแอร์โดอันเมื่อวันพุธ(24ส.ค.) ยอมรับตุรกีแทบไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะถอนทหารออกไปจากซีเรียอย่างรวดเร็วเลย และเชื่อว่าอังการาพร้อมอยู่ในซีเรียนานที่สุดจนกว่าจะสามารถทำลายพวกไอเอสได้สำเร็จ
ผู้บัญชาการกบฏซีเรียรายหนึ่งซึ่งรับผิดชอบหนึ่งในกลุ่มหลักที่เข้าร่วมปฏิบัติการที่สนับสนุนโดยตุรกี เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ตอนนี้กองกำลังของพวกเขากำลังพุ่งเป้าเคลื่อนไปทางตะวันตกหลังทวงคืนจาราบลุส และคาดหมายว่าการรุกคืบอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนถึงจะสำเร็จโดยสมบูรณ์
เหตุระเบิดที่เมืองจีซเร เป็นการตอกย้ำอีกครั้งถึงความเสี่ยงต่างๆที่อังการากำลังเผชิญ ขณะที่พวกเขากำลังเข้าพัวพันกับความขัดแย้งซีเรียอย่างถลำลึกมากขึ้น ด้วยภัยคุกคามจากทั้งพวกไอเอสเองหรือกบฏเคิร์ด
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเผยว่าในเหตุโจมตีดังกล่าวมีตำรวจเสียชีวิต 11 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 78 คน ในนั้น 3 คนเป็นพลเรือน