เอเจนซีส์ / MGR online - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยในวันพุธ (24 ส.ค.) โดยระบุ ประชาชนจำนวนมากกว่า 600,000 ชีวิตในเอธิโอเปียต้องอพยพออกจากถิ่นฐานบ้านเรือนของตนนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากผลพวงของปัญหาอุทกภัย
รายงานของสหประชาชาติระบุว่า หลายพื้นที่ของเอธิโอเปียต้องเผชิญกับความแปรปรวนแบบสุดขั้วของสภาพอากาศ ที่เปลี่ยนจากภาวะแห้งแล้งจัดที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษเมื่อปี 2015 กลายเป็นการเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ภายหลังการมาถึงของ “ฝน” ที่ตกหนักมากกว่าปกติในเอธิโอเปียนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ข้อมูลจากสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมระบุว่า ประชาชนจำนวนมากกว่า 600,000 ชีวิตในเอธิโอเปียต้องอพยพออกจากถิ่นฐานบ้านเรือนของตนนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาจากผลพวงของปัญหาอุทกภัย ซึ่งในจำนวนนี้มีเกือบ 300,000 รายที่ต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วมในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม- มิถุนายน ปีนี้
แม้ผู้อพยพหนีภัยน้ำท่วมส่วนใหญ่จะสามารถเดินทางกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเรือนของตนได้แล้ว แต่ข้อมูลล่าสุดของทางยูเอ็นยังพบว่ามีชาวเอธิโอเปียอีกมากกว่า 10,000 ครอบครัวที่ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ตามศูนย์พักพิงฉุกเฉินต่างๆ และว่าคนกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือพื้นฐานอย่างเร่งด่วน รวมถึงความช่วยเหลือด้านอาหาร
ทั้งนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสหประชาชาติคาดการณ์ว่า ปัญหาอุทกภัยในเอธิโอเปียและอีกหลายประเทศทางตะวันออกของทวีปแอฟริกาส่อเค้าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากผลพวงของปรากฏการณ์ “ลานินญา” ที่จะเริ่มต้นสร้างผลกระทบในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยระบุพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงจะได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากปัญหาน้ำท่วมในเอธิโอเปียภายในเดือนธันวาคม ปีนี้ คือ เขตโอโรเมีย และเขตติดต่อกับโซมาเลีย ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเผชิญกับภาวะแล้งจัดจากผลพวงของปรากฏการณ์ “เอลนินโญ”