รอยเตอร์ - หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.2 แมกนิจูด ในช่วงเช้ามืดวันพุธ (24 ส.ค) พบบ้านเรือนและอาคารถล่มลงมาเสียหายอย่างหนักในเขตตอนกลางอิตาลี โดยเฉพาะใน 4 เมือง เขตเทือกเขา เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านสถาบันแผ่นดินไหวอิตาลี INGV รายงานอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นมีจำนวนถึง 60 ครั้ง ใน 4 ชม. หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรอบแรก
รอยเตอร์รายงานล่าสุดถึงเหตุแผ่นดินไหวอิตาลี ว่า ถึงแม้บ้านเรือนและอาคารจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ทว่าเกิดขึ้นในบริเวณแถบภูเขา ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
โดยพบว่า มีเมือง 4 แห่งในแถบตอนกลางประเทศได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด คือ อัคคูโมลี (Accumoli) อมาตริซี (Amatrice) โพสตา (Posta) และ อาร์ควอตา เดล ตรอนโต (Arquata del Tronto)
“เมื่อท้องฟ้าได้เริ่มสว่างขึ้น ยิ่งทำให้พวกเราได้เห็นภาพชัดถึงความเสียหายมากกว่าที่เราได้คาดหมายไว้แต่แรกถึงอาคารถล่ม ผู้คนถูกติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่กลับไม่มีเสียงร้องออกมาให้ได้ยินจากคนเหล่านั้น” นายกเทศมนตรีเมืองอัคคูโมลี สเตฟาโน เปตรูซซี (Stefano Petrucci) กล่าว
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมต่อว่า ก่อนหน้านี้ เปตรูซซี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อทางการอิตาลี RAI ว่า พบว่า มีครอบครัว 4 ชีวิตถูกฝังอยู่ใต้ซากในขณะอยู่ภายในบ้านที่ถูกถล่มลงมาหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว และมาถึงตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณชี้ออกมาว่าคนเหล่านี้ยังมีชีวิต
และ RAI ยังรายงานโดยอ้างจากข้อมูลของตำรวจอิตาลีในพื้นที่ เปิดเผยว่า มีประชาชนชาวอิตาลี 2 คนเสียชีวิตในหมู่บ้านเปซคารา เดล ตรอนโต (Pescara del Tronto) ที่อยู่ใกล้เคียง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ประสบความสำเร็จ สามารถดึงร่างเหยื่อแผ่นดินไหวได้อีก 2 ร่างออกมาจากใต้ซากอาคารถล่มในเมืองอมาตริซี
“3 ใน 4 ของเมืองพังราบไปหมด” เซอร์จิโอ ปิรอซซี (Sergio Pirozzi) นายกเทศมนตรีเมืองอมาตริซแถลงกับ RAI และกล่าวต่อว่า “เป้าหมายตรงหน้าในขณะนี้ คือ การช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด ยังคงมีเสียงร้องลอดออกมาจากใต้ซากปรักหักพัง เราต้องช่วยชีวิตคนเหล่านี้ให้ได้”
ทั้งนี้ นักข่าวรอยเตอร์ในพื้นที่รายงานว่า โรงพยาบาลท้องถิ่นได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแรงแผ่นดินไหว ซึ่งคนไข้ที่รับรักษาตัวภายในโรงพยาบาลต้องถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่รวมกันบริเวณถนนเพื่อความปลอดภัย
รอยเตอร์รายงานต่อว่า แผ่นดินไหวระดับ 6.2 นั้น ทำให้มีความเสียหายเกิดขึ้นใน 3 แคว้น คือ แคว้นอุมเบรีย (Umbria) แคว้นมาซิโอ (Lazio) และ แคว้นมาร์เก (Marche) ด้านสำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ USGS แถลงประกาศว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทางตอนกลางของอิตาลี ล่าสุดนั้น มีระดับ 6.2 เกิดขึ้นใกล้กับเมืองนอรชา (Norcia) ในแคว้นอุมเบรีย ซึ่งถือเป็นท่องเที่ยวสำคัญของอิตาลี
ในขณะที่ นิโคลา อาเลมันโน (Nicola Alemanno) นายกเทศมนตรีเมืองนอรชา ให้ข้อมูลว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในนอรชา กล่าวว่า “อาคารที่มีโครงสร้างต่อต้านแผ่นดินไหวไม่ได้รับความเสียหาย แต่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ทางเราไม่ได้มีเคสที่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นร้ายแรง”
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ประชาชนในกรุงโรมที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวไปราว 170 กม. ต้องถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเนื่องมาจากแรงสั่นสะเทือน
ซึ่งแรงแผ่นดินไหวนี้ทำให้เฟอร์นิเจอร์บ้านเรือนเคลื่อนไหว พร้อมแรงเขย่า และโคมไฟแกว่ง เพราะแรงสะเทือน โดยหนึ่งในประชาชนในพื้นที่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า “มันเป็นแผ่นดินไหวที่แรงมาก ดูเหมือนกับว่าทำให้เตียงสามารถเคลื่อนตัวข้ามห้องไปเองได้โดยที่มีพวกเรายังอยู่บนนั้น” ลีนา เมอร์ซานตินี (Lina Mercantini) จากซิซีลี (Ceselli) แคว้นอุมเบรียให้ความเห็นกับรอยเตอร์
ในขณะที่ โอลกา อูระบานี (Olga Urbani) จากเมืองสกิดจิโน (Scheggino) ที่อยู่ใกล้เคียงให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “โอพระเจ้า มันช่างน่ากลัว ผนังร้าวและหนังสือหล่นลงมาจากชั้น”
สถาบันแผ่นดินไหวอิตาลี INGV รายงานถึงอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้น โดยพบว่า มีจำนวนมากถึง 60 ครั้งภายใน 4 ชม. หลังเกิดแผ่นดินไหวรอบแรก ความแรงหนักสุดสามารถวัดได้ 5.5 หลังจากทางสถาบันสามารถวัดได้ในรอบแรกสุดพบมีระดับความแรง 6.0
ทั้งนี้ อิตาลีตั้งอยู่บน 2 รอยเลื่อน ส่งผลทำให้อิตาลีกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดในยุโรป