สกายนิวส์ออสเตรเลีย - ตำรวจออสเตรเลียในวันจันทร์ (22 ส.ค.) กำลังตามล่าชายฉกรรจ์ 4 คนที่ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ขณะที่หย่อนจระเข้เข้าไปในห้องของโรงเรียนแห่งหนึ่ง แล้วลงมือรื้อข้าวของจนเสียหายและปล้นสะดมก่อนหลบหนีอย่างไปลอยนวล ขณะที่สัตว์เลื้อยคลานอยู่ในอาการย่ำแย่และอาจต้องถูกกำจัด
กลุ่มวัยรุ่นถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ขณะกำลังทำลายกระจกประตูห้องๆหนึ่งของวิทยาลัยทามินมิน ในเขตนอร์เทิร์น เทริทอรี ของออสเตรเลีย เมื่อตอนเช้าของวันอาทิตย์ (21 ส.ค.)
ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นพวกผู้ต้องสงสัยที่ใช้ผ้าคลุมศีรษะปกปิดใบหน้า กระแทกกระจกบานประตูจนแตก จากนั้นก็หย่อนจระเข้ที่มัดปากไว้เข้าไปในสำนักงานทีละตัว
จากนั้นพวกเขาก็ลงมือรื้อค้น และปล้นสะดมทรัพย์สิน ก่อนหลบหนีไปอย่างลอยนวลภายในเวลาราวๆ 30 วินาที และเบื้องต้นยังไม่ทราบที่มาว่าคนร้ายนำจระเข้มาจากไหน และปล่อยไว้เพื่ออะไร
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานและพิทักษ์สัตว์ป่าถูกเรียกไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อนำจระเข้น้ำเค็มตัวเมียทั้ง 3 ออกไปจากห้อง
ลุค แม็คลีน เจ้าหน้าที่อุทยาน ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่นของเอบีซีนิวส์ ระบุว่าจระเข้เหล่านั้น ซึ่งมีความยาวราวๆ 2 เมตร อาการไม่ดีนักและอาจต้องกำจัดพวกมันทิ้ง
“เหลือแต่ผิวหนังและกระดูก ดูเหมือนพวกมันจะไม่มีเนื้อเลย พวกมันสงบเสงี่ยมมากและจับได้ง่าย” เขากล่าว “สภาพผิวหนังแย่มาก ราวกับว่าพวกมันไม่ได้อยู่ในน้ำมาสักพักแล้ว พวกมันเหมือนไม่ได้กินอาหารเลย และหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะตาบอดด้วย (ผลจากการถูกละเลย)”
เจ้าหน้าที่อุทยานรายนี้เชื่อว่าจระเข้เหล่านี้น่าจะเป็นของฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่ง “เราจะหาว่าพวกมันมาจากฟอร์มไหน และจะพยายามพาพวกมันกลับไปยังฟาร์ม แต่หากดูอาการของพวกมันแล้ว บางทีพวกมันอาจต้องถูกกำจัด”
จระเข้น้ำเข็มถือเป็นสายพันธุ์คุ้มครอง และการรังควานพวกมันถือเป็นการกระทำผิดทางอาญาในออสเตรเลีย ซึ่งมีโทษปรับเงินสูง 77,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือจำคุกสูงสุด 5 ปี