รอยเตอร์ - กองกำลังลิเบียได้กลับมารุกไล่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ให้ออกไปจากเมืองซีราเตอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (21 ส.ค.) โดยมีการระบุว่า สามารถมัสยิดหลักและอาคารที่พวกไอเอสใช้เป็นเรือนจำภายในเมืองดังกล่าวเอาไว้ได้
กองกำลังลิเบีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารจากเมืองมิสราตา ได้บอกว่า จากปฏิบัติการที่นาน 3 เดือน พวกเขาใกล้จะยึดเมืองซีราเตได้แล้ว หลังเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนี้ และจำกัดพื้นที่ของพวกไอเอสให้กระจุกตัวอยู่ใจกลางเมือง แถมตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ยังได้รับการสนับสนุนโดยการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ
โฆษกของโรงพยาบาลมิสราตา เปิดเผยว่า ทหารของกองกำลังลิเบียเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บอีก 85 ราย จากการสู้รบเมื่อวันอาทิตย์
ทหารลิเบียที่ได้รับการหนุนหลังจากปืนใหญ่และรถถังได้เปิดฉากบุกตอนรุ่งสาง บริเวณย่านบูฟารา แล้วยึดอาคารที่พวกไอเอสใช้เป็นเรือนจำเอาไว้ได้
ต่อมากองกำลังลิเบียได้เข้ายึดมัสยิดรีบัต ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่ที่สุดในเมืองซีราเต ที่พวกสมาชิกระดับอาวุโสของไอเอสใช้ทำพิธีทางศาสนา
สื่อของทางการระบุว่า มีศพพวกไอเอสหลายสิบศพ อยู่บริเวณพื้นที่สู้รบที่ยึดมาได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุจำนวนที่แน่ชัด รวมถึงไม่มีการบอกว่าศพเหล่านั้นตายตั้งแต่ตอนไหน
เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศที่ซีราเต 65 ครั้ง ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่รถบรรทุกเสบียง ยานพาหนะติดตั้งวัตถุระเบิด รวมถึงที่มั่นของศัตรู 3 แห่ง
การโจมตีดังกล่าวได้ช่วยเร่งให้กองกำลังลิเบียมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ การบุกต้องช้าลงเพราะเจอมือระเบิดฆ่าตัวตาย พลซุ่มยิงและกับระเบิด
กลุ่มไอเอสได้เข้าควบคุมเมืองซีราเตเมื่อปีที่แล้ว โดยกำลังพยายามก่อตั้งรัฐต้นแบบอย่างที่ทำในอิรักและซีเรีย รวมถึงบังคับใช้กฏหมายแบบเข้มงวดสุดโต่งกับชาวบ้านในเมือง
การสูญเสียเมืองนี้จะเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ต่อไอเอส อย่างไรก็ตาม บางส่วนที่หลบหนีออกไปได้หรือมีฐานอยู่ที่ไหนสักแห่งในลิเบีย น่าจะยังจ้องหาทางฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากสภาวะการเมืองปั่นป่วนและเกิดสูญญากาศด้านความมั่นคงในประเทศนี้