เอเจนซีส์ / MGR online - ศาลทหารอียิปต์ตัดสินจำคุก ผู้สนับสนุนจำนวน 418 คนของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่ถูกประกาศให้เป็นองค์กรนอกกฎหมาย
คำตัดสินซึ่งมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) ระบุ ผู้สนับสนุนทั้ง 418 คนของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกนำตัวมาปรากฏตัวที่ศาลจะได้รับโทษจำคุกแตกต่างกันออกไประหว่าง 2 ปี จนถึงโทษจำคุกตลอดชีวิต
รายงานข่าวระบุว่า ผู้สนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิมจำนวนนี้ ถูกตัดสินว่า มีความผิดจริงจากการโจมตีสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดมินยา เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2013 หรือราว 1 เดือน หลังจากที่กองทัพอียิปต์โค่นอำนาจรัฐบาลอิสลามิสต์ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด มอร์ซี ที่มาจากการเลือกตั้ง
นับตั้งแต่ปี 2013 ทางการอียิปต์ได้เดินหน้ากวาดล้างกลุ่มภราดรภาพมุสลิมอย่างต่อเนื่อง โดยระบุ กลุ่มดังกล่าวที่เป็นฐานอำนาจหลักของรัฐบาลมอร์ซี มีส่วนพัวพันกับการก่อการร้ายและการสร้างความรุนแรงในประเทศ
ก่อนหน้านี้ ทางการอียิปต์ตั้งข้อกล่าวหาต่ออดีตประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด มอร์ซีพร้อมผู้สนับสนุน ฐานเผยแพร่ความลับของชาติและเอกสารที่มีข้อมูลอ่อนไหว ต่อรัฐบาลกาตาร์
โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายซ้ำเติมความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์และกาตาร์ที่ก้าวเข้าสู่ภาวะเย็นชานับตั้งแต่ เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2013 ที่กองทัพอียิปต์ซึ่งนำโดยจอมพล อับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซีซี ทำการโค่นอำนาจรัฐบาลอิสลามิสต์ของมอร์ซี ที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับการ หนุนหลังจากกาตาร์
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ทางการอียิปต์ได้สอบสวนมอร์ซีถึงความเชื่อมโยงกับการรั่วไหลของเอกสารลับของชาติที่พบว่าตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลกาตาร์ รวมถึงสถานีข่าวผ่านดาวเทียมชื่อก้องของกาตาร์อย่าง “อัลญะซีเราะห์” และการสอบสวนดังกล่าวนำมาซึ่งการตั้งข้อกล่าวหาต่อมอร์ซี และผู้สนับสนุนอีก 9 รายที่เป็นสมาชิกระดับสูงของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม
ในคำแถลงซึ่งมีความยาวกว่า 3 หน้ากระดาษ ที่มีการเผยแพร่ออกมาระบุว่า พบหลักฐานว่าผู้ช่วยใกล้ชิดหลายรายของมอร์ซี รวมถึงคนสนิทอย่าง “อามิน อัล-สรีฟี” ได้เปิดเผยข้อมูลในเอกสารลับของรัฐบาลอียิปต์ต่อหน่วยข่าวกรองของกาตาร์ และ อัลญะซีเราะห์ โดยข้อมูลที่รั่วไหลนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งคลังแสงของกองทัพอียิปต์ ตลอดจนรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ และนโยบายในประเทศของอียิปต์ จำนวนมากรวมอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของอียิปต์ภายใต้การนำของจอมพลเอล-ซีซี ออกคำสั่งปิดสำนักงานของอัลญะซีเราะห์ในกรุงไคโร พร้อมดำเนินคดีแก่นักข่าวอย่างน้อย 3 คนจากสื่อสำนักดังกล่าวให้ต้องรับโทษจำคุกนานถึง 10 ปี จากความผิดฐานให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายด้วยการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บ่อนทำลายความมั่นคงของอียิปต์