เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 รายซึ่งทั้งหมดเป็นพลเรือนในพื้นที่ภาคตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่ถูกรุมเร้าด้วยปัญหาความรุนแรงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014
คำแถลงในวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) ของ มัค ฮาซูคาย โฆษกกองทัพสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือสังหารโหดพลเรือนอย่างน้อย 30 ศพในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นกลุ่มกบฏที่เรียกตัวเองว่า กองกำลังพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย (เอดีเอฟ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพวกนักรบอิสลามิสต์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศยูกันดาที่เป็นเพื่อนบ้าน
โฆษกกองทัพสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกระบุด้วยว่า ร่างไร้วิญญาณของพลเรือนเคราะห์ร้ายกลุ่มนี้ถูกพบที่ย่านรวันโกมาในเขตชานเมืองเบนี และว่าทางกองทัพฯ จะไม่ลดละความพยายามในการติดตามหาร่างของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมต่อไป
ด้านกิลแบร์ กัมบาเล ผู้นำภาคประชาสังคมในพื้นที่ ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เหตุโจมตีของฝ่ายกบฏดังกล่าวเกิดขึ้นยาวนานกว่า 4 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเรื่อยไปจนถึงกลางดึกของวันเสาร์ (13 ส.ค.) ที่ผ่านมา และว่าจนถึงขณะนี้พบศพของชาวบ้านแล้ว 35 ศพ ที่ถูกนำไปรวมกันไว้ ณ พื้นที่เก็บศพชั่วคราวของโรงพยาบาลเมืองเบนี
เหตุโจมตีของฝ่ายกบฏล่าสุดที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ได้จุดกระแสแห่งความไม่พอใจที่ผลักให้ชาวบ้านจำนวนหลายร้อยคน ออกมารวมตัวกันตามท้องถนนในเมืองเบนีเพื่อตะโกนถ้อยคำโจมตีรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจเซฟ คาบิลา ที่ประสบความล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่
ก่อนหน้านี้เพียง 3 วัน ประธานาธิบดีคาบิลาเพิ่งเดินทางมาเยือนพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ และให้คำมั่นจะดำเนินทุกมาตรการภายใต้อำนาจของเขาเพื่อนำสันติภาพและความมั่นคงกลับคืนมา
ทั้งนี้ เมืองเบนีตั้งอยู่ใน “จังหวัดคิวูเหนือ” พื้นที่ที่ถูกรุมเร้าไปด้วยปัญหาความรุนแรงและเกิดการโจมตีที่มีพลเรือนตกเป็นเป้าสังหารอยู่บ่อยครั้ง โดยทางรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มักกล่าวโจมตีกลุ่มกบฏในพื้นที่ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงเหล่านี้ที่คร่าชีวิตพลเรือนในพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 600 รายนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2014 เป็นต้นมา