เอเจนซีส์ / MGR online - ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องก่อให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ขณะที่ชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคนทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศกำลังได้รับผลกระทบจาก “คลื่นความร้อน” ที่ผลักอุณหภูมิพุ่งสูงแตะ 43 องศาเซลเซียส
รายงานข่าวในวันเสาร์ (13 ส.ค.) ระบุว่า หลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมลรัฐลุยเซียนา และตอนใต้ของมลรัฐมิสซิสซิปปี มีอันต้องจมอยู่ใต้น้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำก่อนไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและชุมชนจากผลพวงของฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ (12 ส.ค.) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ถนนหลายสายถูกตัดขาด
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 3 ราย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้มีชายคนหนึ่งในมลรัฐลุยเซียนาที่จมน้ำเสียชีวิตขณะพยายามว่ายฝ่าน้ำท่วมใกล้กับเมืองเบตัน รูจที่เป็นเมืองเอกของมลรัฐ ขณะที่ประชาชนในรัฐนี้มากกว่า 7,500 คนต้องใช้ชีวิตในช่วงคืนวันศุกร์ (12) จนถึงเช้าวันเสาร์ (13) โดยไม่มีไฟฟ้าใช้
ด้าน จอห์น เบล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา ประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งแต่วันศุกร์ (12) และให้คำมั่นจะเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถ
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า พื้นที่แถบ “อีสต์โคสต์” หรือชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ กลับต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่แผดเผาด้วยอุณหภูมิที่พุ่งสูงแตะระดับ 43 องศาเซลเซียสทั้งในมหานครนิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเหตุให้มีประชาชนกว่า 10 ล้านชีวิตได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ขณะที่ทางการท้องถิ่นของหลายมลรัฐแถบอีสต์โคสต์ ต่างออกคำเตือนเกี่ยวกับการเฝ้าระวังปัญหาด้านสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับผลพวงของสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ตลอดจนการออกคำเตือนให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าหลบร้อนในตัวอาคารหรือที่ร่ม