xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจเผยคนเบลเยียม 60% “ไม่ปลื้มผู้อพยพ” ชี้เข้ามาประเทศของฉันมากเกินไปแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากรอยเตอร์
เอเจนซีส์ / MGR online - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในเบลเยียม พบข้อมูลที่ระบุว่าประชาชนในประเทศนี้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ลงความเห็นว่ารู้สึกไม่สบายใจที่ในเวลานี้มี “ผู้อพยพ” เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนมากเกินไป

รายงานข่าวในวันเสาร์ (13 ส.ค.) ซึ่งอ้างข้อมูลจากผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของสำนักวิจัย “อิปโซส-โมริ” ระบุว่า กว่าร้อยละ 60 ของกลุ่มตัวอย่างชาวเบลเยียมที่เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ มีความเห็นว่ามีผู้อพยพเดินทางเข้ามาในประเทศของตนมากเกินไปแล้ว และรู้สึกสบายใจต่อปรากฏการณ์ทางสังคมที่กำลังเกิดขึ้นในเบลเยียมอยู่ในเวลานี้

ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวถูกรวบรวมและจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน จนถึง 8 กรกฎาคม และมีการเผยแพร่ออกมาล่าสุดในวันเสาร์ (13 ส.ค.) ที่กรุงบรัสเซลส์ยังระบุด้วยว่า มีชาวเบลเยียมเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีความเชื่อว่าการเข้ามาของเหล่าผู้อพยพซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะส่งผลดีต่อเบลเยียม โดยเฉพาะผลดีในแง่ของการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา กรุงบรัสเซลส์ นครหลวงของเบลเยียมซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานและองค์กรสำคัญของทวีปยุโรปหลายแห่ง ตกเป็นเป้าของการก่อวินาศกรรมครั้งเลวร้ายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 300 ชีวิต ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการโจมตีของมือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 รายที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก รวมถึงเอี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 130 ศพที่กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ข้อมูลจากการสืบสวนของทางการเบลเยียม ตลอดจนตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) สรุปได้ว่าเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อนที่สนามบินบรัสเซลส์ และการโจมตีในรูปแบบเดียวกันอีก 1 ครั้งที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค เป็นฝีมือของมือระเบิด 3 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยอิบราฮิม เอล บากราอุย กับ นายิม ลาอาชราอุย ที่ลงมือ ณ สนามบินบรัสเซลส์ รวมถึง คาลิด เอล บากราอุย ซึ่งลงมือก่อเหตุที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค โดยที่ทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของกลุ่มไอเอสที่แฝงตัวอยู่ในยุโรป ที่ก่อนหน้านี้ลงมือก่อเหตุวินาศกรรมช็อกโลกที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสมาแล้ว

หลังเกิดเหตุ รัฐบาลเบลเยียมให้คำมั่นจะเดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในประเทศของตน แบบขุดรากถอนโคน ตลอดจนประกาศจะทบทวนนโยบายการเปิดรับผู้อพยพจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะจากซีเรียและอิรักเข้าประเทศ หลังพบความเชื่อมโยงระหว่างผู้อพยพที่ไหลทะลักเข้าสู่ยุโรปกับกลุ่มสุดโต่งไอเอส

ก่อนที่กรุงบรัสเซลส์จะตกเป็นเป้าของการก่อการร้าย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย การดำเนินนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลเบลเยียม ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ มีส่วนสำคัญในการบ่มเพาะเชื้อไฟแห่งการก่อการร้าย ซึ่งในที่สุดได้ย้อนกลับมาทำลายล้างและสร้างความสูญเสียแก่ชาวเบลเยียมเอง

ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลเบลเยียม คือ ผู้มีส่วนร่วมสำคัญที่มีบทบาทในการเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มนักรบรัฐ อิสลาม หรือกลุ่มไอเอส ในซีเรียและอิรัก ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากหน่วยงานด้านข่าวกรองของหลายประเทศในยุโรปกลับระบุตรงกันว่า เบลเยียมเป็นประเทศในยุโรปตะวันตกที่มีพลเมืองเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส “สูงที่สุด” คือ ไม่ต่ำกว่า 440 ราย
ภาพจากรอยเตอร์
ภาพจากรอยเตอร์
ภาพจากรอยเตอร์
ภาพจากรอยเตอร์
ภาพจากรอยเตอร์

กำลังโหลดความคิดเห็น