รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย “เซอร์เก ชอยกู” ระบุเมื่อวันพุธ (27 ก.ค.) ว่ารัสเซียได้เพิ่มกำลังทางทหารที่บริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตนเอง ช่วงที่นาโตเริ่มมีการปรากฏตัวของกำลังพลให้เห็นมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ในยูเครนก็ยังไม่มั่นคง ขณะที่อเมริกาเรียกร้องให้พยายามลดความตึงเครียด
ชอยกู ได้ระบุในการประชุมที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งออกอากาศผ่านทีวีของรัฐว่า มอสโกได้จัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศไปยังพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังจัดตั้งกำลังทหารปกป้องตนเองขึ้นในไครเมีย
“นับตั้งแต่ปี 2013 เราได้จัดตั้งกำลังทหาร 4 กองพล 9 กองพลน้อย 22 กรมทหาร ในจำนวนนั้นมี 2 กองพลน้อยจรวดมิสไซล์ ที่มีจรวดมิสไซล์ Iskander เป็นอาวุธ ช่วยเพิ่มอำนาจในการยิงเพื่อทำลายผู้ที่อาจเป็นศัตรู” เขากล่าว
ชอยกูบอกด้วยว่า มีกลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่ม ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่นอร์ทคอเคซัส
จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันได้ทราบเรื่องแล้ว หากเป็นจริง ก็เชื่อว่านี่จะดูเหมือนเป็นการต่อต้านความพยายามที่จะหยุดยั้งความรุนแรงและลดความตึงเครียดในยูเครนตะวันออก
เคอร์บีบอกว่า อเมริกาคาดหวังให้รัสเซียดำเนินการตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงที่กรุงมินสก์ ที่จะระงับสงครามในยูเครนตะวันออก รวมถึงตามหนังสือสัญญาเวียนนา ที่พยายามจะให้มีความโปร่งใสในเรื่องความเคลื่อนไหวทางทหารในภูมิภาคนั้น
เขาระบุด้วยว่า หลายรายงานบ่งชี้ว่ารัสเซียสั่งสมกำลังทหารในไครเมีย ที่รัสเซียยึดและทำการผนวกเป็นของตนเองในเวลาต่อมา
“ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน และจะเป็นแบบนั้นเสมอไป เราจะไม่ยอมปล่อยให้พรมแดนของยุโรปถูกเขียนขึ้นมาใหม่ด้วยปลายกระบอกปืน” เคอร์บีกล่าวพร้อมเรียกร้องให้รัสเซียยุติการยึดครองที่นั่น