เอเจนซีส์ – กระแสการประท้วงต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจเดือดพล่านทั่วอเมริกา ขณะที่ตำรวจดัลลัสใช้ปฏิบัติการค้นหาขนานใหญ่ หลังพบบุคคลมีพิรุธน่าสงสัยในพื้นที่สำนักงานตำรวจเมื่อค่ำวันเสาร์ (9) แต่คว้าน้ำเหลวจับตัวไม่ได้ ในช่วงเวลาที่ตำรวจของเมืองนี้กำลังตกเป็นเป้าหมายการคุกคาม
ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในดัลลัส หน่วยสวาทพร้อมสุนัขตำรวจกระจายกำลังค้นหาอาคารที่จอดรถซึ่งมีหลายชั้นและเชื่อมต่อกับอาคารสำนักงานตำรวจอย่างละเอียด โดยมีการใช้ระเบิดและปืนสั้นเพื่อเปิดทางเข้าสู่ที่จอดรถที่ถูกล็อกไว้ ปฏิบัติการนี้ยุติลงก่อนเวลา 20.00 น. ไม่นาน โดยไม่พบชายผู้ทำตัวน่าสงสัย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ตำรวจมีแผนค้นหาที่อื่นต่อหรือไม่ หรือคิดว่าชายคนดังกล่าวเป็นภัยคุกคามหรือไม่
ที่ดัลลัส ตำรวจใช้รถหุ้มเกราะพร้อมปืนไรเฟิลออกลาดตระเวนในช่วงค่ำวันเสาร์ โดยผู้สื่อข่าวและประชาชนได้รับคำสั่งให้ออกจากอาคารสำนักงานตำรวจ ก่อนปิดบริเวณดังกล่าวห้ามเข้า-ออก เพื่อค้นหาชายผู้ทำตัวน่าสงสัย
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เคทีวีทีและดับเบิลยูเอฟเอเอ รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจว่า ผู้ต้องสงสัยสวมชุดดำและดูเหมือนหนีรอดไปได้หลังจากเผชิญหน้ากับสายสืบคนหนึ่ง
หลังจากนั้น สำนักงานตำรวจดัลลัสแถลงว่า ได้รับคำขู่จากบุคคลนิรนามว่า จะมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายในเมือง โดยก่อนหน้านั้นตำรวจ 5 นาย เพิ่งถูกซุ่มยิงเสียชีวิตหลังการประท้วงในตัวเมืองเมื่อวันพฤหัสฯ (7) และสำนักงานตำรวจได้ประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย
สถานีทีวีในท้องถิ่น เคทีอาร์เครายงานว่า คำขู่ดังกล่าวเชื่อมโยงกับ “กลุ่มหนึ่งจากฮูสตัน” ที่ถูกกล่าวหาว่า เดินทางไปดัลลัสเพื่อสังหารตำรวจ
ตำรวจดัลลัสยังสั่งให้สื่อทีวียุติการแพร่ภาพสดความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งแถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า รายงานที่ไม่ถูกต้องของผู้สื่อข่าวทำให้ตำรวจทำงานยากขึ้น
ความตึงเครียดจากข่าวล่าสุดเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยสะท้อนสถานการณ์ของดัลลัสเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังการซุ่มยิงตำรวจ 5 นายเสียชีวิตช่วงท้ายการประท้วงอย่างสงบกลางเมือง
ปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นขณะที่กระแสการประท้วงปะทุขึ้นอีกครั้งในหลายเมืองทั่วอเมริกาต่อสิ่งที่ถูกมองว่า เป็นการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจต่อชาวแอฟริกันอเมริกัน โดยปัจจัยกระตุ้นครั้งนี้คือการยิงชายผิวสีสองคนเสียชีวิตในรัฐหลุยเซียนาและมินนิโซตาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ที่มินนิโซตา ผู้ประท้วงปิดทางหลวงไอ-94 เมื่อเวลาประมาณ 8.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันเสาร์ เพื่อประท้วงต่อการเสียชีวิตของฟิแลนโด แคสติล วัย 32 ปี และมีการยิงดอกไม้ไฟใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 นาย ขณะที่ตำรวจประกาศให้ผู้ประท้วงสลายการชุมนุม ยิงกระสุนควันและกระสุนสี รวมทั้งพ่นสารเคมีที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเข้าใส่ฝูงชน ทว่า จนถึงเที่ยงคืนทางหลวงดังกล่าวยังไม่สามารถใช้การได้
เช่นเดียวกัน ผู้ประท้วงไปรวมตัวกันบนถนนในบาตัน รูจ รัฐหลุยเซียนา เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณี อัลตัน สเตอร์ลิง วัย 37 ปี ที่ถูกตำรวจ 2 นาย จับกดพื้นและกระหน่ำยิงหลายนัดจนเสียชีวิตเมื่อวันอังคารที่แล้ว (5) ต่อมาเมื่อวันเสาร์ ผู้ประท้วงไปชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจและห้างสรรพสินค้าที่สเตอร์ลิงเผชิญหน้ากับตำรวจขณะขายซีดี รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงถูกจับราว 30 คนเมื่อคืนวันศุกร์ (8)
ที่ชิคาโก ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินขบวนและ “แกล้งตาย” หน้างานเทศกาลอาหารกลางแจ้ง เทสต์ ออฟ ชิคาโก นอกจากนั้นยังมีผู้เดินขบวนกลางเมืองอินเดียนาโปลิส ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหว แบล็ก ไลฟ์ส แมตเทอร์เดินขบวนในแมนฮัตตันผ่านฟิฟต์ อะเวนิว และไปรวมกันที่ยูเนียน สแควร์ ปาร์ก
ขณะที่ชาวเมืองพยายามทำใจกับเหตุการณ์เหล่านี้ ประชาชนบางส่วนเดินทางไปร่วมพิธีเคลื่อนศพเบรนต์ ธอมป์สัน วัย 43 ปี หนึ่งในตำรวจที่ถูกยิงเสียชีวิต จากดัลลัสกลับบ้านเกิดที่เมืองคอร์ซิกานาเมื่อบ่ายวันเสาร์