วอชิงตันขึ้นบัญชีดำ “คิม จองอึน” ชี้นำละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง

เอเจนซีส์ - โซลยินดีพี่กันประกาศแซงก์ชัน “คิม จองอึน” พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 10 คน โทษฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เชื่อแม้ไม่เห็นผลทันตา แต่น่าจะทำให้ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงทบทวนพฤติกรรม ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้สถาบันน้อยใหญ่ในเกาหลีเหนือจะเรียงหน้าออกมาปกป้องผู้นำสูงสุดและตอบโต้อเมริกาอย่างก้าวร้าว แต่เปียงยางเองจะรออวดแสนยานุภาพทางทหารหลังโซล-วอชิงตันซ้อมรบเดือนหน้า ทว่า ไม่ถึงขั้นทดสอบนุกรอบใหม่ เนื่องจากกลัวจะทำให้จีนกริ้วและตัดขาด

อดัม ซูบิน รักษาการณ์ปลัดกระทรวงคลังฝ่ายการก่อการร้ายและข่าวกรองการเงินของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (6 ก.ค.) ว่า ภายใต้คิม จองอึน เกาหลีเหนือยังคงข่มเหงประชาชนนับล้านอย่างโหดร้าย ซึ่งรวมถึงการวิสามัญฆาตกรรม การบังคับใช้แรงงาน และการทรมานในค่ายนักโทษ รวมทั้งการลิดรอนเสรีภาพสื่อ นักวิชาการ และกิจกรรมทางวัฒนธรรม ที่รวมถึงการคุมขังผู้ถูกกล่าวหาดูภาพยนตร์ต่างประเทศ

“คิม ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบการล่วงละเมิดเหล่านี้ในฐานะผู้บังคับบัญชากระทรวงความมั่นคงของรัฐและกระทรวงความปลอดภัยของประชาชน” กระทรวงคลังสหรัฐฯ แถลง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในวอชิงตันเผยว่า กระทรวงความมั่นคงของรัฐ กักขังนักโทษถึง 80,000-120,000 คนในค่ายนักโทษการเมือง ที่ซึ่งการทรมาน การประหารชีวิต การล่วงละเมิดทางเพศ การอดอาหาร และแรงงานทาส เป็นเรื่องปกติ

ส่วนกระทรวงความปลอดภัยของประชาชนบริหารเครือข่ายสถานีตำรวจ ศูนย์กักกัน และค่ายแรงงาน ที่ผู้ต้องสงสัยที่อยู่ภายใต้การสอบสวนจะถูกดูหมิ่น ข่มขู่ และทรมานอย่างเป็นระบบ

การประกาศมาตรการลงโทษโดยกระทรวงคลังมีขึ้นควบคู่กับการแถลงรายงานการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือโดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

นอกจากคิมแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อเมริกาขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ อีก 10 คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยของประชาชน ผู้อำนวยการสำนักงานในสังกัดกระทรวงความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งกระทรวงและกรมอีก 5 แห่ง

จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตันไม่คาดหวังว่ามาตรการแซงก์ชันนี้ซึ่งครอบคลุมการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯ ของผู้ที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และการห้ามพลเมืองและบริษัทอเมริกันติดต่อทำธุรกิจกับบุคคลเหล่านี้ จะส่งผลทันที แต่คาดว่า จะทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะระดับต่ำถึงระดับกลาง ทบทวนสิ่งที่กำลังกระทำอยู่

ปีเตอร์ ฮาร์เรลล์ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายแซงก์ชันของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า มาตรการลงโทษครั้งนี้จะเป็นการส่งสัญญาณถึงบริษัทจีนและบริษัทจากประเทศอื่นๆ ที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือว่า อเมริกาจะยกระดับการแซงก์ชันเปียงยางต่อไปไม่หยุดยั้ง

วันพฤหัสฯ (7) กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงแสดงความยินดีกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตัน เนื่องจากมองว่า จะกระตุ้นให้นานาชาติตระหนักถึงระดับความรุนแรงของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ และร่วมกันคิดหามาตรการแก้ปัญหา

ศาสตราจารย์ยาง มู-จินจากมหาวิทยาลัยนอร์ท โคเรียน สตัดดีส์ของเกาหลีใต้ เชื่อว่า กองทัพ หน่วยงานรัฐบาล และกลุ่มสังคมต่างๆ ของเกาหลีเหนือ จะออกมาตอบโต้อเมริกาอย่างกราดเกรี้ยวเนื่องจากมองว่า การขึ้นบัญชีดำเป็นการจาบจ้วงคิม สำหรับเปียงยางเองนั้นจะรอจนกว่าอเมริกาเริ่มซ้อมรบกับเกาหลีใต้ในเดือนสิงหาคม จึงจะออกมาแสดงแสนยานุภาพทางทหาร

ด้านศาสตราจารย์คิม ยอง-ฮุนจากมหาวิทยาลัยทงกุก เชื่อว่า เกาหลีเหนือจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น แต่จะไม่ฉวยโอกาสทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่เพราะกลัวว่า พันมิตรสำคัญอย่างจีนจะยิ่งตีตัวออกห่าง