เอเอฟพี/เอพี - กองกำลังเยเมนและปฏิบัติการรบพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังชาติพันธมิตรที่มีซาอุฯ เป็นแกนนำ ประสบความสำเร็จในปฏิบัติการยึดคืนฐานที่มั่นที่ตั้งสำนักงานใหญ่กองบัญชาการความมั่นคงส่วนกลางเยเมน (Central Security) ซึ่งมีที่ตั้งติดกับท่าอากาศยานนานาชาติเอเดน ทางใต้ของเยเมนได้สำเร็จ หลังจากปะทะกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุดโต่งในตลอดเช้าวันนี้ (6 ก.ค.) ก่อนสังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธไป 6 คน แต่มีบางส่วนหนีรอดไปได้ หลังก่อนหน้านี้ทางกลุ่มก่อการร้ายได้ใช้คาร์บอมบ์ 2 คันเข้าโจมตีเพื่อเปิดทางบุก และทำให้มีทหารเยเมนเสียชีวิต 10 นาย ด้านสื่ออิหร่านอ้าง กลุ่มโจมตีเป็นก่อการร้ายอัลกออิดะห์
เอเอฟพีรายงานล่าสุดถึงสถานการณ์บุกเข้ายึดฐานที่มั่นที่ตั้งสำนักงานใหญ่กองบัญชาการความมั่นคงส่วนกลางเยเมน (Central Security) ซึ่งเอพีชี้ว่า เป็นฐานที่มั่นติดกับท่าอากาศยานนานาชาติเอเดน ทางใต้ของเยเมนในวันพุธ (6 ก.ค.) โดยแหล่งข่าวเยเมนให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า กลุ่มที่บุกเข้ามาเป็นกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมสุดโต่งที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทหาร ซึ่งในครั้งแรกใช้คาร์บอมบ์ 2 คันบุกเข้าและจุดระเบิดภายในที่ตั้ง ก่อนที่กลุ่มคนร้ายที่มีจำนวน 15-21 คนจะเข้ามา และได้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่กองกำลังเยเมนที่อยู่ภายใน ก่อนที่ทางกลุ่มจะสามารถยึดที่ตั้งทางทหารไว้ได้สำเร็จในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ด้านสื่ออิหร่าน PressTV รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวของตัวเองว่า กลุ่มคนร้ายที่เข้ายึดฐานที่มั่นทางทหารที่ยังจงรักภักดีกับประธานาธิบดีเยเมน อาเบด รับโบ มานซูร์ ฮาดี (Abd-Rabbu Mansour Hadi) เป็นกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการฐานแห่งนี้ พล.อ.นาซเซอร์ ซารี (General Nasser Sarie) ได้ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีว่า “กองกำลังและหน่วยรบพิเศษสามารถกลับเข้าควบคุมฐานที่ตั้งแห่งนี้ได้สำเร็จ และได้ผลักดันกลุ่มติดอาวุธออกไป และทำให้มีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธจำนวนหนึ่งเสียชีวิต”
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเยเมนให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเพิ่มเติมต่อว่า ในการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มติดอาวุธ ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะสามารถสังหารกลุ่มมุสลิมสุดโต่งที่ลงมือปฎิบัติการได้ 6 คน แต่ยังมีบางส่วนสามารถหลบหนีออกไปได้สำเร็จ โดยในการปะทะกันอย่างยาวนานและต่อเนื่อง มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายใช้ทั้งระเบิดอาร์พีจี และอาวุธเบาที่รวมไปถึงปืนไรเฟิลยิงตอบโต้กันอย่างดุเดือดตลอดในช่วงเช้า
พยานในเหตุการณ์กล่าวว่า พบว่าเหนือจุดปะทะพบเฮลิคอปเตอร์จู่โจมอาปาเชของกองกำลังผสมพันธมิตรที่มีซาอุฯ เป็นแกนนำบินวนบนท้องฟ้า ซึ่งผู้บัญชาการฐานที่มั่นกองบัญชาการความมั่นคงส่วนกลางเยเมนยืนยันว่า ปฏิบัติการยึดที่ตั้งคืนครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังผสมจากซาอุฯ
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า และมีรายงานว่าแรงระเบิดและเสียงไซเรนของรถพยาบาลฉุกเฉินได้ยินไปทั่วบริเวณ ล่าสุดมีจำนวนผู้เสียชีวิต 10 ราย แต่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นภายหลัง ซึ่งเอเอฟพีอ้างอิงจากแหล่งข่าวโดยกล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ทราบชะตาชีวิตของทหารเยเมนที่ถูกกลุ่มติดอาวุธจับตัวไว้ในระหว่างที่สามารถยึดกองบัญชาการไว้ได้
ด้านนายกรัฐมนตรีเยเมน อาห์เหม็ด บิน ดาเกอร์ (Ahmed bin Dagher) ที่อยู่ภายในเมืองเอเดนอันเป็นที่ตั้งรัฐบาลเยเมนชั่วคราวในขณะเกิดเหตุได้ประกาศจะไม่มีวันยอมให้กลุ่มติดอาวุธทำลายความมั่นคงผาสุขของประชาชนเยเมน และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาลเยเมนเป็นอันขาด
แต่กระนั้นเอเอฟพีชี้ว่า ทั้งกองทัพเยเมนและตำรวจในเมืองเอเดนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปกป้องเมืองจากการโจมตีของกลุ่มตรงกันข้ามที่มีทั้งกลุ่มก่อการร้าย IS และกลุ่มกบฏฮูธี ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ากบฏฮูธีที่ได้ขับไล่รัฐบาลเยเมนออกจากเมืองหลวงของประเทศสามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนได้สำเร็จ