เอเอฟพี - ปิแอร์ มอสโกวิชี กรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) ออกมาวิจารณ์แผนดึงดูดนักลงทุนด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือไม่ถึง 15% ของอังกฤษว่าเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมในการรับมือ "เบร็กซิต"
จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ลอนดอนอาจลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือไม่ถึง15% เพื่อยับยั้งนักลงทุนไม่ให้ย้ายฐานธุรกิจออกไปยังต่างประเทศ หลังจากที่ชาวเมืองผู้ดีลงประชามติขอถอนตัวออกจากอียูเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
กลุ่มอียู 28 ชาติแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับแผนการของอังกฤษ เพราะมองว่าวิธีเช่นนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการแข่งกันลดภาษี เพราะแต่ละประเทศก็ต้องการดึงบริษัทต่างชาติให้เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศของตนเช่นกัน
“การลดภาษีให้เหลือ 15% ไม่ใช่แนวทางริเริ่มที่ดีในมุมมองของผม” มอสโกวิชี อดีตรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ เรดิโอ คลาสสิก ถือเป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อครั้งแรกนับตั้งแต่ออสบอร์นเสนอแผนของอังกฤษขึ้นมา
“เราไม่ควรงัดนโยบายการคลังมาแข่งขันกันเอง หรือใช้วิธีทุ่มตลาด” มอสโกวิชีเตือน
รัฐมนตรีคลังออสบอร์น ได้เอ่ยถึงแผนลดภาษีเงินได้นิติบุคคลในบทสัมภาษณ์ซึ่งตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (3) และหลังจากนั้นก็ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวกับเอเอฟพี
ทั้งนี้ ก่อนที่จะจัดทำประชามติ รัฐบาลอังกฤษก็มีแผนจะลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 20% ให้ลงมาเหลือเพียง 19% ภายในสิ้นปี 2017 และจะลดเหลือ 17% ในปี 2020 ทว่าเป้าหมาย 15% ที่ออสบอร์นพูดถึงและยังไม่กำหนดกรอบเวลาที่แน่ชัดนี้จะทำให้ภาษีในอังกฤษถูกกว่าทุกๆ ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และเกือบจะถูกพอๆ กับไอร์แลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกอียู และเก็บภาษีประเภทนี้เพียง 12.5%