เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันปรับขึ้นในวันอังคาร (28 มิ.ย.) จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่วนวอลล์สตรีทฟื้นตัวตามแรงช้อนซื้อ หลังตลาดดิ่งหนักช่วงหลายวันที่ผ่านมาสืบเนื่องจากอังกฤษตัดสินใจออกจากอียู ขณะที่ทองคำปิดลบ นักลงทุนเริ่มปล่อยมือจากสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผลโหวตประชามติเมื่อวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) ไม่ได้แค่สั่นสะเทือนตลาดการเงินทั่วโลกเท่านั้น ราคาน้ำมันก็ร่วงเช่นกัน ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดหมายว่าแนวโน้มดังกล่าวจะผกผันในช่วงระยะเวลาหนึ่งข้างหน้า
นอกจากนี้แล้วความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ยังเป็นผลจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตามหลัง Brexit ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมันที่ขายในตลาดระหว่างประเทศในรูปแบบของดอลลาร์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ฟื้นตัวแรง นักลงทุนหันมาช้อนซื้อสินทรัพย์ราคาถูก หลังจากตลาดทุนร่วงลงหนักช่วง 2 วันที่ผ่านมา อันมีต้นตอจากผลประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 269.48 จุด (1.57 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,409.72 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 35.55 จุด (1.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,036.09 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 97.43 จุด (2.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,691.87 จุด
วอลล์สตรีทฟื้นตัวตามตลาดหุ้นโลก หลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมาคลื่นความช็อกจากอังกฤษโหวตถอนตัวจากอียู กัดเซาะเม็ดเงินหายไปจากตลาดทุนต่างๆ ทั่วโลก 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นภาคการเงินและเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด เป็นหนึ่งในภาคที่มีผลงานที่ดีสุดในวันอังคาร (28 มิ.ย.)
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ปรับลงเล็กน้อย หลังขยับขึ้นมา 2 วันติด นักลงทุนหันกลับไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 6.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,317.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์