รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online – ทางการโคลอมเบียจะเสร็จสิ้น การเจรจากับกลุ่มกบฏฝ่ายซ้าย “FARC” ภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยในวันจันทร์ (20 มิ.ย.) ของประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ต่อก้าวย่างสำคัญที่จะนำไปสู่การยุติลงของสงครามกลางเมืองในประเทศนี้ ที่ดำเนินยืดเยื้อมานานมากกว่า “ครึ่งศตวรรษ”
การเจรจาสันติภาพที่มีคิวบาเป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาลโคลอมเบียกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (FARC) ได้เปิดฉากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2012 และที่ผ่านมาคู่เจรจาทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลง ในประเด็นต่างๆ ได้มากกว่า 6 เรื่องใหญ่ๆ แต่ยังไม่อาจตกลงกันได้ในเรื่องข้อตกลงหยุดยิงแบบสองฝ่าย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สุด โดยที่ผ่านมามีเพียงกลุ่มกบฏ FARC เท่านั้นที่ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียว
“ข้าพเจ้าคิดว่าเราจะสามารถปิดการเจรจาที่กรุงฮาวานาของคิวบาได้ ภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ และจากนั้น ก็จะเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ สำหรับประเทศของเรา” ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ผู้นำโคลอมเบียกล่าว ระหว่างเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุด ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า เศรษฐกิจของโคลอมเบียอาจมีการเติบโตได้เพิ่มอีกราว 2 เปอร์เซ็นต์ ตามการประเมินของทางการโคลอมเบีย หากมีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพ
ความพยายามของรัฐบาลโคลอมเบียภายใต้การนำของประธานาธิบดีซานโตสในการปิดฉากการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏ FARC ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่เป็นพวกฝ่ายขวา ของอดีตประธานาธิบดีอัลบาโร อูริเบ
โดยอูริเบซึ่งในปัจจุบันทำหน้าที่เป็นสมาชิกวุฒิสมาชิกโคลอมเบียด้วย ได้ออกโรงเรียกร้องให้ประชาชน “โหวต โน” คว่ำร่างข้อตกลงสันติภาพฉบับนี้ที่ถูกมองว่า เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายกบฏมากเกินไป
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า แกนนำกลุ่มกบฏนิยมซ้าย FARC ซึ่งจับอาวุธทำสงครามกองโจรกับรัฐบาลโคลอมเบียมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1964 ขู่จะหวนคืนสู่สนามรบอีกครั้ง หากว่าการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า