รอยเตอร์ - หญิงชาวเวเนซุเอลารายหนึ่ง เสียชีวิตเพราะถูกยิงเข้าที่ใบหน้า ตอนที่มีฝูงชนบุกปล้นสะดมโกดังเก็บอาหารของทางการ นับเป็นเหตุความไม่สงบครั้งล่าสุดของเวเนซุเอลาที่กำลังเผชิญวิกฤต
ผู้เสียชีวิตคือ เจนนี ออร์ทิส สาวใหญ่วัย 42 ปี ญาติของเธอเล่าว่า เธอเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังจากถูกยิงตอนเกิดเหตุปล้นสะดมเมื่อคืนวันอาทิตย์ในซานคริสโตบัล เมืองใกล้ชายแดนโคลอมเบีย ที่มีเหตุปล้นสะดมและประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นบ่อยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ครอบครัวผู้ตาย รวมถึงแม่สามีวัย 58 ปีของเธอ “คาร์เมน โรซา” ได้บอกว่าเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวหาว่าตำรวจเป็นคนยิงออร์ทิส
ทางการไม่ได้แสดงความเห็นต่อข้อกล่าวหานี้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจท้องถิ่นบอกว่าบรรดาอาชญากรที่พกอาวุธได้ยิงปืนใส่ตำรวจ ส่วนการสืบสวนกำลังดำเนินการอยู่
“โกดังพวกนี้เต็มไปด้วยอาหาร แล้วผู้คนก็ต้องการอาหาร” โรซา บอกกับรอยเตอร์
การปล้นสะดม การตั้งศาลเตี้ยฆ่าคน รวมถึงการประท้วงที่มีความรุนแรง ได้เพิ่มขึ้นสูงมากในปีนี้ ช่วงที่เศรษฐกิจเวเนซุเอลาวิกฤตหนัก ประเทศที่มีประชากร 30 ล้านคนแห่งนี้ กำลังขาดแคลนอาหารและปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ แถมอัตราเงินเฟ้อยังสูงที่สุดในโลก
องค์กรเอ็นจีโอในท้องถิ่น ระบุว่า มีการประท้วงเกิดขึ้นอย่างน้อย 641 ครั้ง ในเวเนซุเอลา ช่วงเดือนพฤษภาคม โดยมีมากกว่า 1 ใน 4 ที่เป็นเรื่องการขาดแคลนอาหาร ส่วนการปล้นสะดม หรือตั้งใจจะปล้นนั้น เกิดขึ้นมากกว่า 250 ครั้งในปีนี้
พันธมิตรพรรคฝ่ายค้าน โทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร พร้อมทั้งหาทางให้มีการทำประชามติเพื่อถอดถอนเขา ส่วนทางฝั่งรัฐบาลก็บอกว่าพวกศัตรูทางการเมืองกำลังโหมกระพือวิกฤตที่เกิดขึ้นด้วยการใช้สงครามเศรษฐกิจ เพื่อหาทางยึดอำนาจ