เอเจนซีส์ - รายงานการตรวจสอบอิสระสรุป ฮิลลารี คลินตัน และทีมงาน ละเลยคำแนะนำอย่างชัดเจนจากกระทรวงต่างประเทศ ที่ว่า การใช้อีเมลส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ละเมิดมาตรฐานของรัฐบาลและอาจทำให้ข้อมูลอ่อนไหวรั่วไหลถึงมือแฮกเกอร์ ผู้ช่วยของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งยังสั่งให้เจ้าหน้าที่เทคนิคที่แจ้งเตือนเรื่องนี้ปิดปากให้สนิท ด้านรีพับลิกันได้ทีโจมตีว่า คนที่มีวิจารณญาณบกพร่องและละเมิดกฎหมายอย่างคลินตันไม่สมควรได้เข้าสู่ทำเนียบขาว
ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจราชการกระทรวงต่างประเทศที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธ (25) ยังพบว่า ช่วงหนึ่งของปี 2011 แฮกเกอร์พยายามเจาะระบบอีเมลของคลินตันที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างปี 2009 - 2013 แม้เธอยืนยันว่า เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวที่ใช้ไม่เคยถูกเจาะก็ตาม นอกจากนั้น คลินตันและเจ้าหน้าที่อาวุโสในทีมของเธอยังปฏิเสธไปให้การในการสอบสวนของกระทรวงต่างประเทศ
รายงานความยาว 78 หน้าของผู้ตรวจราชการ ซึ่งเป็นรายงานการตรวจสอบกรณีนี้อย่างเป็นทางการชิ้นแรกที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ระบุว่า คลินตันละเลยคำสั่งที่ชัดเจน ไม่เคยขออนุญาตใช้อีเมลส่วนตัวในการรับ-ส่งข้อมูลของรัฐบาล และไม่เคยพิสูจน์ว่า เซิร์ฟเวอร์หรือโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่ของตัวเองมีคุณสมบัติสอดคล้องกับข้อกำหนดความการรักษาความปลอดภัยข้อมูลขั้นต่ำ ระหว่างนั่งคุมกระทรวงต่างประเทศ
ในปี 2010 เจ้าหน้าที่จัดการข้อมูลของกระทรวง แจ้งว่า การใช้อีเมลส่วนตัวของคลินตันขัดกับข้อกำหนดการเก็บรักษาบันทึกของทางการถึงสองครั้ง ทว่า ผู้อำนวยการของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวยืนยันว่า ระบบอีเมลส่วนตัวของคลินตันผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากทีมกฎหมายแล้ว และ “ไม่ต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก”
ทว่า การตรวจสอบไม่พบหลักฐานว่า เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายเคยตรวจสอบ หรือ อนุมัติระบบอีเมลส่วนตัวของคลินตัน นอกจากนั้น หากมีการขอให้ตรวจสอบจริง เจ้าหน้าที่ข้อมูลอาวุโสจะต้องปฏิเสธ เนื่องจากการใช้อีเมลส่วนตัวในการทำงานถือเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคง
การตรวจสอบของผู้ตรวจราชการครอบคลุมแนวทางการใช้อีเมลและข้อมูลของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ 5 คน ซึ่งพบว่า รัฐมนตรีเหล่านี้ล่าช้าในการตระหนักและจัดการข้อกำหนดตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในไซเบอร์สเปซที่เกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูลระบบอิเล็กทรอนิกส์
ไบรอัน ฟัลลอน โฆษกทีมหาเสียงของคลินตัน รีบออกมาตอกย้ำจุดนี้ทันที ว่า ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจราชการบ่งชี้ว่า แนวทางการใช้อีเมลของคลินตันไม่ต่างจากรัฐมนตรีต่างประเทศคนอื่น ๆ ที่ต่างเคยใช้อีเมลส่วนตัวระหว่างปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งไม่มีหลักฐานว่า เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของคลินตันเคยถูกเจาะ
ทว่า สิ่งที่ฟัลลอนไม่พูดถึง คือ คลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเพียงคนเดียวจากห้าคนดังกล่าว ที่ไม่ยอมให้ไปให้การในการสอบสวนของกระทรวงต่างประเทศ และคลินตันยังเป็นรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในการทำงาน
.
.
ทางด้านรีพับลิกันได้ทีอ้างรายงานฉบับนี้โจมตี ว่า คลินตัน ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ละเมิดกฎหมายการเก็บรักษาบันทึกข้อมูลของรัฐบาล
ไรนซ์ พรีบัส ประธานคณะกรรมการบริหารแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน ชี้ว่า การค้นพบของผู้ตรวจราชการเป็นเพียงบทล่าสุดของมหากาพย์ว่าด้วยการใช้วิจารณญาณผิดพลาดของคลินตันที่ละเมิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ
“เดิมพันในการเลือกตั้งสูงเกินกว่าจะไว้ใจให้ทำเนียบขาวตกอยู่ในมือของผู้ที่มีวิจารณญาณผิดพลาดและละเมิดกฎหมายแบบสะเพร่าอย่างฮิลลารี คลินตัน”
ทางด้านเดโมแครตแม้กังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อคลินตันจากรายงานฉบับนี้ เนื่องจากผลสำรวจก่อนหน้านี้ฟ้องว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า คลินตันไม่ซื่อสัตย์ แต่ก็ยังยืนกรานว่า รายงานของผู้ตรวจราชการไม่มีอะไรใหม่
ทั้งนี้ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบัน เป็นผู้ขอให้ สตีฟ ไลนิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงต่างประเทศ สอบสวนกรณีการใช้อีเมลและเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของคลินตัน หลังมีการเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว และนอกจากการสอบสวนของผู้ตรวจราชการแล้ว เรื่องนี้ยังกำลังถูกตรวจสอบจากหน่วยงานอีกหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงการสอบสวนของกระทรวงต่างประเทศ ว่า การกระทำของคลินตันเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่.