เอเอฟพี - ทางการฟิลิปปินส์ระงับการสอบสวนคดีซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ถูกกล่าวหาว่าตั้ง “หน่วยล่าสังหาร” ขึ้นในเมืองดาเวา หลังจากพยานปากสำคัญหลบหายไป โดยคาดว่าคงจะเกิดจากความกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับผู้นำคนใหม่
เอ็มมานูเอล คาปาราส รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ซึ่งกำลังจะพ้นตำแหน่ง ระบุว่า กระบวนการสอบสวนของกระทรวงฯ ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากพยานเพียงคนเดียวได้ขอออกจากโครงการคุ้มกันพยานของรัฐบาลไปแล้ว
“มันไม่มีอะไรเลยสักอย่าง และผมคิดว่าพยานก็คงไม่มีอีกแล้ว เพราะเขาไม่ปรากฏตัวอีกเลย” คาปาราสระบุ
“ถ้าพยานไม่ออกมาแสดงตัว ก็คงยากที่จะทำอะไรมากไปกว่านี้”
เลย์ลา เดอ ลิมา อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มกระบวนการสอบสวนหน่วยล่าสังหารของ ดูเตอร์เต ให้สัมภาษณ์วานนี้ (22 พ.ค.) ว่า เห็นได้ชัดว่าพยานหวาดกลัวดูเตอร์เต ซึ่งชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างถล่มทลายเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา
“ทุกอย่างบ่งชี้ว่าการที่พยานตัดสินใจขอออกจากโครงการคุ้มกันของรัฐบาล เป็นผลมาจากชัยชนะการเลือกตั้งของดูเตอร์เต” เดอ ลิมา ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ระบุ
ดูเตอร์เตซึ่งรั้งตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาเป็นระยะเวลานานกว่า 20 ปี เคยโอ้อวดระหว่างหาเสียงว่าตนได้ตั้งหน่วยล่าสังหารซึ่งปลิดชีพอาชญากรในเมืองดาเวาไปกว่า 1,000 คน
เขายังให้สัญญาว่าถ้าได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีจะตามเด็ดหัวอาชญากรให้ได้ถึง 100,000 คน และนำร่างของคนเหล่านั้นไปโยนทิ้งในอ่าวมะนิลา “เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงปลาให้อ้วน”
เดอ ลิมา บอกกับเอเอฟพีว่า พยานปากสำคัญขอออกจากโครงการคุ้มกันพยานของรัฐบาล หลังจากที่ตัวเธอลาออกจากกระทรวงเมื่อเดือน ต.ค. เพื่อลงสมัครวุฒิสมาชิก
“พยานคนนี้กลัวว่าดูเตอร์เตจะชนะ ตั้งแต่ก่อนถึงวันเลือกตั้งแล้ว” เธอกล่าว
องค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่า หน่วยล่าสังหารที่ถูกก่อตั้งหรือได้รับการสนับสนุนจาก ดูเตอร์เต ได้ตามล่าผู้ต้องสงสัยเป็นอาชญากร รวมถึงพวกเด็กข้างถนนในเมืองดาเวา จนมีผู้ถูกสังหารไปกว่า 1,000 ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980
อย่างไรก็ดี ดูเตอร์เตกลับแสดงท่าทีไม่ยี่หระต่อเรื่องนี้ พร้อมระบุว่านโยบายของตนทำให้ดาเวากลายเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์
ฮิวแมนไรต์วอตช์ซึ่งมีฐานในนครนิวยอร์ก ออกมาแถลงวานนี้ (22) ว่า การที่ฟิลิปปินส์เลิกติดตามคดีหน่วยล่าสังหารของดูเตอร์เต ถือเป็น “ความล้มเหลวที่น่าเศร้าใจ” พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลมะนิลาเดินหน้าสอบสวนคดีนี้ต่อไป
“การตัดสินใจของทางการฟิลิปปินส์เท่ากับส่งสารไปยังผู้ที่มีส่วนพัวพันกับการล่าสังหารว่า ไม่ต้องกลัวจะถูกลงโทษจากการก่ออาชญากรรมเลวร้ายเช่นนี้”
ดูเตอร์เตจะเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ซึ่งมีวาระ 6 ปี