เอเอฟพี - ลมกระโชกแรงและฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของไซโคลนโรอานู (Roanu) ซึ่งกำลังพัดเข้าสู่ชายฝั่งตอนใต้ของบังกลาเทศในวันนี้ (21 พ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ขณะที่ทางการได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 60,000 คนไปยังที่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า พายุไซโคลนลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งบังกลาเทศในเวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (13.00 น.ตามเวลาในไทย) ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ประชาชนราว 60,000 คนถูกอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังมีคำเตือนว่าพายุลูกนี้อาจก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) สูงถึง 1.5 เมตร ซึ่งจะทำให้หมู่บ้านและเมืองริมชายฝั่งถูกน้ำท่วม
“จุดที่พายุจะพัดขึ้นฝั่งอยู่บริเวณระหว่างเขตบาริซัล (Barisal) และชายฝั่งเมืองจิตตะกอง” รูฮุล กุดดุส เจ้าหน้าที่จากกรมอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“กระแสลมที่หมุนเวียนรอบตัวพายุไซโคลน เริ่มที่จะส่งอิทธิพลต่อพื้นที่ชายฝั่งแล้ว”
ล่าสุด มีรายงานจากตำรวจว่า ฝนที่ตกหนักและลมกระโชกแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ส่วนบ้านเรือนที่สร้างจากดินเหนียวมุงสังกะสีตามเขตชายฝั่งทะเลภาคใต้ของบังกลาเทศก็พังเสียหายไปหลายร้อยหลัง
“มีผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตพร้อมกับลูก เพราะดินถล่มลงมาทับบ้านของพวกเขาที่เขตวิจาคุนดูในเมืองจิตตะกอง ซึ่งสาเหตุที่ดินถล่มก็เพราะฝนตกหนักมาก” ชาห์ อะลัม นายตำรวจระดับสารวัตร ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ตำรวจยังได้รับแจ้งผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 2 คนที่เมืองตัจมุดดิน บนเกาะโภลา (Bhola) ขณะที่หญิงวัย 50 ปีเศษคนหนึ่งในเมืองพาทัวคาลี (Phatuakhali) ก็เสียชีวิตคาบ้านที่ถูกพายุพัดถล่ม
ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือนหลายพันหลังที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพายุ
“เราอพยพชาวบ้านไปยังศูนย์หลบภัยพายุไซโคลนแล้วประมาณ 60,000 คน และจะมีการอพยพเพิ่มเติมอีกในช่วงเที่ยง” เรียซ อาเหม็ด หัวหน้ากรมจัดการภัยพิบัติแห่งบังกลาเทศ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ทางการบังกลาเทศได้สั่งปิดท่าน้ำและท่าเรือหลายแห่ง และขอให้ชาวประมงงดนำเรือออกจากฝั่ง ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเขตภูเขาทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ระวังอันตรายจากดินถล่ม