xs
xsm
sm
md
lg

นักวิทย์ทดสอบเทคโนโลยี “ไฮเปอร์โซนิก” เร็วเหนือเสียงกว่า 7 เท่า! บิน 2 ชม.จากซิดนีย์ถึงลอนดอน ไม่ไกลเกินฝัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จรวดทดลองซึ่งถูกปล่อยออกจากสถานที่ทดสอบกลางทะเลทรายในออสเตรเลียวันนี้ (18 พ.ค.) ก่อนจะเดินทางไปถึงระดับความสูง 278 กิโลเมตรจากพื้นโลก ด้วยความเร็วเหนือเสียง 7.5 เท่า ซึ่งนับเป็นความสำเร็จล่าสุดในโครงการทดสอบเทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิก
เอเอฟพี - การทดสอบเทคโนโลยีเร็วเหนือเสียงระดับ “ไฮเปอร์โซนิก” ณ สนามทดสอบกลางทะเลทรายในออสเตรเลีย ประสบผลสำเร็จงดงามในวันนี้ (18 พ.ค.) ซึ่งอาจทำให้การเดินทางจากนครซิดนีย์ถึงกรุงลอนดอนด้วยเวลาเพียง “2 ชั่วโมง” ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอีกต่อไป

คณะนักวิจัยด้านการทหารจากสหรัฐฯ และออสเตรเลียได้ร่วมกันค้นคว้าและทดสอบเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียงยิ่งยวดจำนวน 10 ครั้ง โดยใช้สถานที่ทดสอบที่เมืองวูเมรา (Woomera) รัฐเซาท์ออสเตรเลีย และที่ศูนย์ปล่อยจรวดอันโดยาในนอร์เวย์

“นี่คือเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนอนาคตและอาจปฏิวัติการเดินทางโดยเครื่องบิน โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของต้นทุนในการเดินทางสู่ห้วงอวกาศ” อเล็กซ์ เซลินสกี หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์จากออสเตรเลีย ระบุในถ้อยแถลง

ความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิก ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงการเดินทางที่เร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่า (Mach 5) ขึ้นไป จะช่วยย่นเวลาในการเดินทางจากนครซิดนีย์ถึงกรุงลอนดอน ซึ่งคิดเป็นระยะทางถึง 17,000 กิโลเมตร ให้เหลือเพียงแค่ 2 ชั่วโมง

โครงการวิจัยทดสอบการบินระหว่างประเทศเร็วเหนือเสียง (Hypersonic International Flight Research Experimentation - HIFiRE) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครื่องยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็วถึง Mach 7

“นี่เป็นเวลาที่น่าตื่นเต้น... พวกเราต้องการบินด้วยเครื่องยนต์ที่เร็วเหนือเสียงถึง 7 เท่า” ไมเคิล สมาร์ท ผู้เชี่ยวชาญด้านไฮเปอร์โซนิกจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี โดยเขาได้มีส่วนทำโครงการนี้ร่วมกับค่ายอากาศยานยักษ์ใหญ่อย่างโบอิ้ง และองค์กรด้านอวกาศของเยอรมนี DLR

เขาอธิบายว่า จรวดที่ติดตั้งสแคร็มเจ็ต (scramjet) ซึ่งหมายถึงเครื่องยนต์สันดาปเร็วเหนือเสียง (supersonic combustion engine) จะดึงออกซิเจนจากชั้นบรรยากาศมาใช้ในกระบวนการเผาไหม้ จึงทำให้มีน้ำหนักเบา และเดินทางได้เร็วกว่าจรวดที่บรรทุกเชื้อเพลิง

กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียแถลงว่า จรวดที่ใช้ในการทดลองวันนี้ (18) เดินทางไปถึงระดับความสูง 278 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ด้วยความเร็ว Mach 7.5 ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

สมาร์ทระบุว่า การทดสอบในแต่ละครั้งจะเป็นการต่อยอดจากครั้งก่อนหน้า โดยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับความร้อนภายนอกขณะที่จรวดเดินทางด้วยความเร็วระดับไฮเปอร์โซนิก

การทดสอบครั้งถัดไปจะมีขึ้นภายในปี 2017 โดยจะเป็นการทดลองให้เครื่องยนต์สแคร็มเจ็ตแยกตัวออกจากจรวดขับดัน (rocket booster) และเดินทางต่อด้วยตัวของมันเอง

โครงการนี้เริ่มต้นทดสอบเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2009 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2018

กำลังโหลดความคิดเห็น