เอพี - นักประดาน้ำสมัครเล่น 2 รายค้นพบสมบัติใต้ทะเลจำนวนมากที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษของอิสราเอล ซึ่งล้วนเป็นสิ่งประดิษฐ์สมัยโรมัน วัตถุที่ประเมินค่ามิได้เหล่านี้ถูกเผยโฉมออกมาให้ได้เห็นเป็นครั้งแรก
สมบัติเหล่านี้ถูกค้นพบเมื่อเดือนที่แล้ว โดยสองนักประดาน้ำสมัครเล่น "แรน ไฟน์สไตน์" และ "โอเฟอร์ รานัน" ตอนที่ทั้งคู่สำรวจซากเรือใต้น้ำ ใกล้กับท่าเรือโบราณของเมืองเคซาเรีย
ตอนแรกพวกเขาปล่อยให้ประติมากรรมชิ้นแรกที่พบกองอยู่ที่ก้นทะเลโดยไม่ใส่ใจ แต่พอพวกเขาพบชิ้นที่สอง จึงได้เริ่มตระหนักว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว เลยตัดสินใจเอาของพวกนี้ขึ้นมา จากนั้นพวกเขาก็ลงไปดำหาต่อจนเจออีกหลายชิ้น
หน่วยงานด้านโบราณวัตถุของอิสราเอล ได้ส่งทีมประดาน้ำของตนเองไปสืบหาเพิ่มเติมแล้วก็พบสมบัติเหล่านั้น ซึ่งมีทั้งรูปปั้นทองแดงสัมฤทธิ์ , โคมไฟ , ไห , วัตถุรูปทรงสัตว์ , สมอเรือ รวมถึงเหรียญที่มีรูปจักรพรรดิโรมัน "คอนสแตนไทน์" และ "ลิกินิอุส" อีกนับพันเหรียญ
เจ้าหน้าที่ของอิสราเอล ระบุว่า วัตถุเหล่านี้มีอายุย้อนกลับไปถึงช่วงศตวรรษที่ 4 โดยที่บางชิ้นนั้นเก่ามากถึงขนาดมาจากช่วงศตวรรษที่ 1 และ 2
เจ้าหน้าที่คาดว่า เรือที่ขนสิ่งของเหล่านี้เจอกับพายุ ลูกเรือพยายามจะทอดสมอแต่ความพยายามของพวกเขาล้มเหลว ข้าวของทั้งหมดก็เลยจมอยู่ในน้ำใกล้กับท่าเรือเคซาเรีย ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีมานานถึง 1,700 ปีแล้ว
ท่าเรือแห่งนี้สร้างขึ้นตามคำสั่งของพระเจ้าเฮโรดมหาราช ในช่วง 1 ศตวรรษก่อนคริสตกาล แล้วกลายเป็นเส้นเลือดที่สำคัญทางเศรษฐกิจในเมดิเตอร์เรเนียน จนกระทั่งมันตกต่ำเสื่อมถอยอย่างไม่ทราบสาเหตุ หลังจากสร้างเสร็จได้ไม่นาน