xs
xsm
sm
md
lg

วุฒิสภาบราซิลโหวตหนุนถอดถอนผู้นำหญิง “รุสเซฟฟ์” เปิดทางรองปธน.ขึ้นรักษาการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ แห่งบราซิล
เอเอฟพี - วุฒิสภาบราซิลลงมติเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ วันนี้ (12 พ.ค.) ซึ่งทำให้ผู้นำหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของแดนแซมบ้าต้องจำใจสละอำนาจ และเข้าสู่กระบวนการไต่สวน โดยรองประธานาธิบดี มิเชล ทีเมอร์ ซึ่งถอนตัวจากรัฐบาลมาเป็นแกนนำของฝ่ายค้านจะขึ้นรักษาการตำแหน่งผู้นำบราซิลแทน

การอภิปรายซึ่งใช้เวลานานถึง 17 ชั่วโมงได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเวลา 3.15 น. ตามเวลากรุงบราซิเลีย เมื่อ ส.ว. คนที่ 41 จากทั้งหมด 81 คนในวุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบให้ปลด รุสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่งเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อไต่สวนความผิดฐานละเมิดกฎหมายงบประมาณ

กระบวนการไต่สวนผู้นำหญิงอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน และวุฒิสภาจะต้องโหวตขั้นสุดท้ายด้วยคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 จึงจะทำให้ รุสเซฟฟ์ วัย 68 ปี พ้นตำแหน่งผู้นำบราซิลอย่างสมบูรณ์

ทีเมอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคแนวร่วมประชาธิปไตยบราซิล (PMDB) จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการตั้งแต่วันนี้ (12) ซึ่งทำให้การบริหารประเทศของพรรคแรงงานฝ่ายซ้ายที่ยาวนานถึง 13 ปีถูกปิดฉากไปโดยปริยาย

ทีเมอร์ เตรียมประกาศจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมระบุว่าภารกิจสำคัญอันดับต้นๆ ของเขาก็คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ตลอดจนขับเคลื่อนการทำงานของรัฐสภาที่ชะงักงันเนื่องจากความขัดแย้งเรื่องการถอดถอน รุสเซฟฟ์
รองประธานาธิบดี มิเชล ทีเมอร์
รัฐบาลบราซิลซึ่งนำโดยพรรคแรงงานของรุสเซฟฟ์ ถูกสังคมติเตียนทั้งเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน และการบริหารบ้านเมืองอย่างไร้ประสิทธิภาพ จนทำให้เศรษฐกิจแดนแซมบ้าเข้าสู่ภาวะถดถอยที่สุดในรอบ 25 ปี นอกจากนี้ยังถูกฟ้องคดีรับสินบนและยักยอกทรัพย์จำนวนมหาศาลจากรัฐวิสาหกิจน้ำมันเปโตรบราส (Petrobras) โดยบุคคลที่กำลังถูกอัยการเล่นงานหนักที่สุดก็คือ อดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลุลา ดา ซิลวา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของพรรคแรงงาน

รุสเซฟฟ์ ซึ่งเคยถูกรัฐบาลเผด็จการจำคุกและทรมานในช่วงทศวรรษ 1970 ระบุว่า กระบวนการถอดถอนที่ฝ่ายค้านผลักดันอยู่นั้น “มีลักษณะของการก่อรัฐประหารอย่างชัดเจน” และปราศจากข้อกฎหมายรองรับ ซึ่งเธอก็พร้อมที่จะสู้ไม่ถอย

สื่อบราซิลรายงานว่า รุสเซฟฟ์ จะได้รับแจ้งผลโหวตของวุฒิสภาอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น. (20.00 น. ตามเวลาในไทย) จากนั้นผู้นำหญิงจะออกมากล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ

วิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองที่รุมเร้าทำให้สังคมแดนแซมบ้าแตกแยกออกเป็น 2 ฝ่าย คือกลุ่มที่โทษว่า รุสเซฟฟ์ เป็นต้นเหตุของปัญหา กับอีกกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนรัฐบาลพรรคแรงงาน และพอใจกับโครงการปฏิรูปของรัฐที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชาวบราซิลหลายสิบล้านคนให้พ้นจากวงจรความยากจน

กำลังโหลดความคิดเห็น