รอยเตอร์ - เกาะขนาดเล็กในแปซิฟิกจำนวน 5 เกาะได้จมหายไป เนื่องจากการถูกกัดเซาะและระดับนำทะเลที่สูงขึ้น การค้นพบนี้ถือเป็นข้อยืนยันทางวิทยาศาสตร์ชิ้นแรก เกี่ยวกับผลกระทบตามแนวชายฝั่งในแปซิฟิก จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
จากข้อมูลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารออนไลน์ Environmental Research Letters ฉบับเดือนพฤษภาคม มีการระบุว่า เกาะเล็กเกาะน้อยที่จมอยู่ใต้ทะเลเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งต้องเผชิญกับระดับน้ำที่สูงขึ้นปีละ 10 มิลลิเมตร ตลอดช่วง 2 ทศวรรษล่าสุด
บรรดาเกาะที่จมหายไปนั้นมีขนาดตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 5 เฮคเตอร์ (2.5 - 12.4 เอเคอร์) และไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่บนเกาะเหล่านั้น
นักวิจัยยังพบด้วยว่า มีอีก 6 เกาะที่ถูกน้ำทะเลท่วมเป็นบริเวณกว้าง แถมในจำนวนนั้นมี 2 เกาะที่ผู้คนบนเกาะต้องโยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยเพราะหมูบ้านถูกน้ำท่วม หนึ่งในนั้นคือเกาะนาอูทัมบู ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น 25 ครอบครัว นับตั้งแต่ปี 2011 มีบ้านได้รับความเสียหายไปแล้ว 11 หลัง รวมถึงพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบริเวณที่ไม่มีคนอยู่อาศัย
นักวิจัยระบุว่า งานศึกษาชิ้นนี้คือข้อยืนยันทางวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกเกี่ยวกับเหตุการณ์ยิบย่อยจำนวนมากมายที่เกิดขึ้นทั่วแปซิฟิก อันเป็นผลกระทบต่อแนวชายฝั่งและผู้คนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
หมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยหลายร้อยเกาะ มีประชากรประมาณ 640,000 คน อยู่ห่างจากออสเตรเลียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 1,000 ไมล์
เจ้าหน้าที่ของหมู่เกาะโซโลมอนระบุว่า งานศึกษาชิ้นนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงบทบาทของรัฐบาลในการดำเนินแผนโยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย
การโยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยได้เกิดขึ้นแบบเฉพาะกิจบนเกาะเหล่านั้น ชาวเกาะนาอูทัมบูหลายคนต้องย้ายไปอยู่บนเกาะภูเขาไฟข้างเคียงที่มีพื้นที่สูงกว่า นอกจากนี้ยังมีคนอื่นๆ ที่ถูกบีบให้ต้องย้ายออกมาจากเกาะนาราโร