รอยเตอร์/ เอเจนซีส์ / MGR online – คนงานบริษัทน้ำมัน “เชลล์” ที่แหล่งน้ำมันบองกาของไนจีเรีย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ทางภาคใต้ของประเทศ ถูกอพยพออกจากพื้นที่ในวันจันทร์ (9 พ.ค.) หลังมีคำขู่จากกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่
รายงานข่าวระบุว่า การสั่งอพยพคนงานบริษัทน้ำมันเชลล์ดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่มติดอาวุธที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ได้ก่อเหตุโจมตีสำนักงานของบริษัทพลังงาน “เชฟรอน” และขู่จะลงมือก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับบริษัทพลังงานอื่นๆ ของต่างชาติ
ด้านโฆษกของเชลล์ได้ออกโรงยืนยันก่อนหน้านี้ว่า การผลิตน้ำมันจากแหล่งต่างๆในไนจีเรียจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ทางบริษัทจะเพิ่มการเฝ้าระวังสถานการณ์โดยเฉพาะทางด้านความมั่นคงในพื้นที่
ในช่วงค่ำของวันจันทร์ (9) รองประธานาธิบดี เยมี โอซินบาโจ ได้พบหารือที่กรุงอบูจากับบรรดาผู้บริหารจากบริษัทพลังงานชื่อดังทั้ง เชลล์ , เชฟรอน , โตตาล และ อากิป และผลของการหารือในครั้งนี้สรุปได้ว่า ทุกฝ่ายเห็นพ้องให้มีการเดินหน้ากระบวนการขุดเจาะและผลิตน้ำมันในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ต่อไป โดยไม่อ่อนข้อต่อคำขู่ของกลุ่มติดอาวุธใดๆ เพราะการหยุดชะงักของอุตสาหกรรมนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อเศรษฐกิจของไนจีเรียเอง รวมถึง แผนการลงทุนของบริษัทต่างชาติ
ที่ผ่านมา แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของไนจีเรียเชื่อว่า กลุ่มติดอาวุธที่เรียกตัวเองว่า “ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ส” มีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีบริษัทเชฟรอน รวมถึง เป็นผู้โจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัทเชลล์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเหตุให้การส่งออกน้ำมันจากพื้นที่นี้ที่มีปริมาณไม่น้อยกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน ได้รับผลกระทบ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ต้นตอของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ทางภาคใต้ของไนจีเรียนั้น แท้จริงแล้วเป็นผลพวงมาจากความไม่พอใจของคนในพื้นที่ต่อการจัดสรรรายได้จากการส่งออกน้ำมันที่ไม่ยุติธรรม ทั้งที่เงินรายได้จากการส่งออกน้ำมันร้อยละ 70 ของไนจีเรียมาจากน้ำมันดิบในพื้นที่นี้