เอเอฟพี - สหรัฐฯ ประกาศมาตรการกวาดล้างการใช้บริษัทเปลือกนอก (shell company) ภายในประเทศที่อาจถูกใช้เพื่อการหลบเลี่ยงภาษีและการฟอกเงิน
ทำเนียบขาวระบุว่า พวกเขาจะปิดช่องโหว่ที่ทำให้ชาวต่างชาติสามารถเปิดบริษัทจดทะเบียนสัญชาติสหรัฐฯ แบบไม่ระบุชื่อได้ และออกกฎหมายที่กำหนดให้ธนาคาร นายหน้า และสถาบันการเงินต้องทราบและเก็บบันทึกเกี่ยวกับผู้เป็นเจ้าของบัญชีโดยแท้จริง
กฎหมายใหม่ยังจะถูกเสนอให้กำหนดว่าตัวบริษัทเองต้องรู้และรายงานเกี่ยวกับตัวเจ้าของที่แท้จริงด้วย
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสสนับสนุนของรัฐบาลทั่วโลกให้มีการต่อสู้กับการหลบเลี่ยงภาษีและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการขาดความโปร่งใสในระบบการธนาคาร
มันยังมีออกมาไม่นานหลังจากกรณี “ปานามา เปเปอร์” หรือการรั่วไหลของเอกสารหลายพันฉบับจากบริษัทกฎหมายสัญชาติปานามาที่แสดงให้เห็นว่ามันง่ายเพียงใดในการที่เหล่าเศรษฐีและอาชญากรจะซ่อนและเคลื่อนย้ายเงินผ่านบริษัทเปลือกนอกนิรนามและดินแดนปลอดภาษีที่แทบไม่มีการควบคุมเลย
เจ้าหน้าที่ทรงอิทธิพลรวมถึงผู้นำรัสเซีย ไอซ์แลนด์ อังกฤษ และอาร์เจนตินา ถูกปานามา เปเปอร์ เชื่อมโยงเข้ากับดินแดนปลอดภาษีนอกอาณาเขต
ทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลงว่า มาตรการใหม่นี้เพิ่มความพยายามของนานาชาติที่จะทำให้ระบบการเงินโลกมีความโปร่งใสมากขึ้น “เพื่อให้อาชญากรและนักโกงภาษีไม่สามารถซ่อนกิจกรรมการใช้บริษัทเปลือกนอกนิรนามและนิติบุคคลอื่นๆ”
“ความพยายามเหล่านี้จำเป็นต่อการขัดขวางอาชญากรจากการใช้ระบบการเงินโลกเพื่อฟอกเงินจากการคอร์รัปชั่นหรือกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ, การกระทำความผิดทางการเงินหรือแม้กระทั่งการก่อการร้าย, การเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ หรือการเลี่ยงภาษี”
ทำเนียบขาวเสริมว่า ปานามา เปเปอร์ “เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของความพยายามดังกล่าวที่สหรัฐฯดำเนินการภายในประเทศ และความพยายามที่เราดำเนินการร่วมกับหุ้นส่วนนานาชาติของเรา เพื่อจัดการกับความท้าทายที่มีร่วมกันนี้”
ทำเนียบขาวระบุด้วยว่าจะกดดันให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายที่จะตอบสนองความต้องการสหรัฐฯ ที่จะให้ธนาคารในต่างประเทศให้ข้อมูลบัญชีใดๆก็ตามที่มีเจ้าของเป็นชาวอเมริกันแก่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ
กฎหมายนี้จะกำหนดให้ธนาคารในสหรัฐฯต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่ถือครองบัญชีสหรัฐฯ แก่ประเทศต้นทางด้วย