xs
xsm
sm
md
lg

ฮอนด้ายอมรับ “ถุงลมนิรภัยทาคาตะ” เป็นเหตุ 2 นักขับมาเลย์เสียชีวิต – ทาคาตะยอมเรียกคืนเพิ่มอีก 40 ล้านชุดในสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซีย แถลงยอมรับเป็นทางการ ว่า “ถุงลมนิรภัยทาคาตะ” ระเบิด ทำให้นักขับชาวมาเลเซีย 2 รายต้องเสียชีวิตล่าสุด ที่รัฐซาบาห์ ในวันที่ 21 เม.ย 2016 และในรัฐเกดะห์วันที่ 1 พ.ค 2016 โดยพบว่ารถยนต์ฮอนดา ซิตีคาร์ของ 2 นักขับอยู่ในรายชื่อถูกทางบริษัทคืนก่อนหน้านี้ ด้านบริษัททาคาตะยอมตกลงเรียกคืนถุงลมนิรภัยเพิ่มอีก40 ล้านชุดในสหรัฐฯ

เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 พ.ค)ว่า บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซียออกแถลงการณ์ในวันพุธ(4 เม.ย)ว่า “ทางบริษัทขอยืนยันว่า ถุงลมนิรภัยของทาคาตะประเภท SDI ที่ถูกติดตั้งในรถเกิดระเบิดขึ้นในระหว่างอุบัติเหตุรถชนในมาเลเซียเมื่อในเดือนเมษายน และพฤษภาคมล่าสุด”

ทั้งนี้สื่อมอเตอร์มาเลเซีย Paultan.org รายงานเมื่อวานนี้(4 พ.ค)ชี้ว่า การเสียชีวิตของนักขับมาเลย์ในวันที่ 16 เมษายน 2016 เกิดขึ้นในรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว และอีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2016 ในรัฐเกดะห์ ทางตอนเหนือ

โดยในแถลงการณ์ของฮอนด้า มาเลเซียยังกล่าวต่อว่า “ซึ่งจากอุบัติเหตุทั้งสองครั้งนี้เป็นผลทำให้คนขับต้องเสียชีวิต” แต่กระนั้นในแถลงการณ์ระบุว่า สาเหตุการเสียอย่างเป็นทางการของชาวมาเลเซียทั้ง 2 รายนั้นยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งพบว่าคนทั้งคู่ขับรถฮอนด้า ซิตี ในขณะเกิดเหตุ

เป็นสิ่งที่น่าสนใจเมื่อพบว่า จากการรายงานของสื่อมอเตอร์มาเลย์ที่ได้อ้างอิงจากแถลงการณ์ของทางฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซียทในวันพุธ(4 พ.ค)ชี้ว่า อุบัติเหตุที่เกิดในเดือนเมษายน 2016 นักขับมาเลย์ใช้รถฮอนดา ซิตี รุ่นปี 2006 ซึ่งอยู่ในรายชื่อรุ่นของรถที่ถูกทางบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซีย เรียกคืนวันที่ 21 พฤษภาคม 2015

และอุบัติเหตุในเดือนพฤษภาคม 2016 นั้นนักขับมาเลย์ใช้รถฮอนด้า ซิตี รุ่นปี 2003 ซึ่งรถรุ่นนี้ถูกทางบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซียสั่งเรียกคืนในวันที่ 8 ธันวาคม 2014 เช่นกัน


อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่า รถทั้ง 2 คันที่เกิดอุบัติเหตุล่าสุดนี้ได้รับการเปลี่ยนระบบถุงลมนิรภัยทาคาตะเจ้าปัญหาก่อนเกิดเหตุหรือไม่

นอกจากนี้ทางฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซีย ยังแถลงต่อถึงการประกาศเรียกคืนเพิ่มเติมรถฮอนด้า ซิตี รุ่นปี 2014 และปี 2015 เพื่อเปลี่ยนถุงลมนิรภัยอันเก่าที่ติดมากับรถ

ซึ่งจากการรายงานของหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส สิงคโปร์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2014 พบว่า คุณแม่ชาวมาเลเซียรายหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ต้องเสียชีวิตพร้อมทารกในครรภ์เนื่องมาจากถุงลมนิรภัยทาคาตะไม่ทำงานหลังจากรถยนต์ที่เธอขับเกิดอุบัติเหตุ

โดยอุบัติเหตุในครั้งนั้นถือเป็นอุบัติเหตุการเสียชีวิตของนักขับที่เกิดจากถุงลมนิรภัยทาคาตะเป็นครั้งแรกนอกสหรัฐฯ โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2014 แต่ทางบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซีย เพิ่งจะมาเปิดเผยในอีกหลายเดือนถัดมาหลังจากนั้น

และจากการสอบสวนของอุบัติเหตุครั้งนั้น พบว่า คุณแม่นักขับชาวเสือเหลืองรายนี้ขับรถฮอนด้า ซิตี ซับคอมแพค รุ่นปี 2003 ที่ผลิตในไทย ในขณะที่ถุงลมนิรภัยทาคาตะที่ถูกติดตั้งมากับตัวรถนั้นถูกผลิตในโรงงานที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ จอร์ดฮัตต์ โจฮัน (Jordhatt Johan) หัวหน้าแผนกสื่อสารสัมพันธ์ของบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ มาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อธุรกิจ บลูมเบิร์ก ในเดือนพฤศจิกายน 2014

และจากการเสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 คนในมาเลเซีย ทำให้ยอดการเสียชีวิตทั่วโลกรวมอยู่ที่ 13 รายล่าสุด

ซึ่งที่ผ่านมามีการประกาศเรียกคืนถุงลมนิรภัยทาคาตะสัญชาติญี่ปุ่นทั่วโลกไปแล้วร่วม 50 ล้านชุด

และในจำนวนทั้งหมดที่มีการเรียกคืน ได้รวมไปถึง 29 ล้านชุดจากสหรัฐฯ ซึ่งสำนักงานควบคุมความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ(NHTSA) ได้ประกาศในวันพุธ(4 พ.ค)ว่า ต้องการเห็นการเรียกคืนถุงลมทาคาตะในสหรัฐฯเพิ่มอีก 35 – 40 ล้านชุด

โดยจากรายงานของหนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สเมื่อวานนี้(4 พ.ค)พบว่า บริษัททาคาตะยอมตอบตกลง NHTSA ที่จะทำการเรียกเก็บคืนเพิ่ม

ซึ่งในการเรียกคืนนี้จะเกิดขึ้นใน 5 เฟสด้วยกัน ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนนี้ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2019 NHTSA แถลง และกล่าวต่อว่า คำสั่งการเรียกคืนจะถูกส่งออกไปเพื่อประเมินถึงระดับความเสี่ยง

ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากถุงลมนิรภัยทาคาตะไม่ทำงานมีไม่ต่ำกว่า 10 ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น