ซีเอ็นเอ็น/บีบีซี - ทางการฮ่องกงเตือนนักเดินทางเก็บของมีค่าไว้กับตัว ตามหลังเกิดเหตุผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์เที่ยวมุ่งหน้าสู่เกาะแห่งนี้ ถูกขโมยทรัพย์สินมีค่าในกระเป๋าซึ่งใส่ไว้ในบริเวณช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ
สื่อมวลชนท้องถิ่นระบุตัวเหยื่อว่าเป็นพ่อค้าชาวตุรกี ที่กำลังบินจากตุรกีมายังฮ่องกง ด้วยเที่ยวบินของสายการบินเอมิเรตส์ในที่นั่งชั้นประหยัด
พอเดินทางถึงฮ่องกงในตอนเช้าวันจันทร์ (2 พ.ค.) ชายคนดังกล่าวได้แจ้งกับพนักงานของสายการบินว่าตนเองถูกขโมยทรัพย์สินมีค่าไป ซึ่งต่อมาพนักงานของเอมิเรตส์ก็แจ้งเหตุดังกล่าวกับตำรวจ
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานคำสัมภาษณ์ของตำรวจระบุว่า ชายชาวตุรกีรายนี้ถูกขโมยนาฬิกา 2 เรือน และเงินตราต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่ารวมราวๆ 257,730 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9 ล้านบาท)
โฆษกของสายการบินเอมิเรตส์บอกกับบีบีซีว่า “เอมิเรตส์กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจ และกำลังเตรียมข้อมูลเพื่อช่วยในการสืบสวน”
บีบีซีระบุว่า มีรายงานเกี่ยวกับการลักขโมยกลางอากาศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก โดยบางกรณีเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งอาชญากรรมและทำกันเป็นขบวนการ
ด้านเจ้าหน้าที่ฮ่องกงก็ยอมรับเช่นกันว่าได้รับรายงานเกี่ยวกับการขโมยกลางอากาศเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลของรัฐบาลพบว่าในปีที่แล้วมีเหตุขโมยบนเครื่องบินอย่างน้อย 60 คดี เพิ่มขึ้นจาก 48 คดีของปี 2014
รัฐบาลฮ่องกงได้ออกคำเตือนแก่นักเดินทางว่าให้เก็บทรัพย์สินมีค่าไว้กับตัว และไม่ควรนำเงินสดหรือทรัพย์สินมีค่าไว้ในห้องเก็บสัมภาระ
เมื่อปีที่แล้ว นายไหล ตัง กั๋ว รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฮ่องกงเผยว่า ตำรวจได้รับแจ้งเหตุขโมยมากขึ้นในเที่ยวบินระยะกลาง และระยะไกล