เอเจนซีส์ - อินเทล บริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่เตรียมปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 11% หรือราว 12,000 คน คาดว่าจะประหยัดเงินได้ถึง 750 ล้านดอลลาร์ในปี 2016
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (20 เม.ย.) ว่า ในความเคลื่อนไหวของบริษัทอินเทลล่าสุดที่ต้องการเข้าสู่ตลาดคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ คลาวด์ และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ประธานกรรมการบริหารอินเทล ไบรอัน คราซานิช (Brian Krzanich) ระบุในอีเมลถึงพนักงานอินเทลทั้งหมดว่า “หลังจากที่กระบวนการปรับโครงสร้างผ่านไปแล้ว ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ในแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างมากขึ้น การบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ในขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของอินเทลอีกราย สเตซี สมิธ (Stacy Smith) ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ครึ่งหนึ่งของพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ที่คาดว่าจะมีจำนวน 6,000 คนจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้
สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมต่อว่า อินเทลมีสำนักงานใหญ่ในซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้มีพนักงานทั่วโลกทั้งหมด 112,400 คน โดยสมิธได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับยูเอสเอทูเดย์ว่า การปรับโครงสร้างของบริษัทครั้งนี้จะกระทบต่อพนักงานที่ประจำในส่วนฐานแคมปัสต่างๆ ของอินเทลเป็นส่วนใหญ่ แต่สมิธปฏิเสธที่จะระบุลงไปว่าพนักงานอินเทลที่ต้องถูกประกาศเลิกจ้างจะเกิดขึ้นที่ใดบ้าง
นอกจากนี้ยูเอสเอทูเดย์ยังชี้ต่อว่า การประกาศเลิกจ้างอินเทลยังส่งผลกระทบต่อรัฐโอเรกอน และโดยเฉพาะในเมืองพอร์ตแลนด์อย่างช่วยไม่ได้ เพราะอินเทลถือเป็นบริษัทที่มีการจ้างงานมากที่สุดในรัฐแห่งนี้ ที่มีพนักงานจำนวน 18,500 คนใน 6 แคมปัสที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองพอร์ตแลนด์ ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจของรัฐ
และนอกจากนี้ยังพบว่าสำนักงานสาขาใหญ่อันดับ 2 ของอินเทลตั้งอยู่ในแชนด์เลอร์(Chandler) รัฐแอริโซนา มีพนักงานอินเทลอยู่ไม่ต่ำกว่า 11,000 คน
ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า ในการปลดพนักงานออกไปรอบนี้จะสามารถทำให้บริษัทประหยัดไปได้ถึง 750 ล้านดอลลาร์ในปี 2016 และในส่วน annual run-rate อินเทลสามารถประหยัดไปได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ภายในกลางปี 2017 และในไตรมาสที่ 2 อินเทลจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางตัวเลขราว 1.2 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ บริษัทอินเทลที่มีธุรกิจผูกพันกับตลาดพีซีมาโดยตลอดมีแผนที่จะหันเหธุรกิจเข้าสู่เทคโนโลยีดาตาเซ็นเตอร์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต (IoT) พร้อมไปกับการตลาดด้านเมโมรีและเกต อาร์เรย์ (gate array) เพราะที่ผ่านมาไม่กี่ปีนี้ตลาดชิปคอมพิวเตอร์พีซีซบเซาอย่างหนัก โดยล่าสุดผลประกอบการของอินเทลตกไป 10% ในไตรมาสแรก
และในปี 2015 พบว่า 40% ของรายได้บริษัทอินเทลได้มาจากธุรกิจใหม่ ทำให้ชดเชยกับการขาดทุนในส่วนตลาดพีซีไปได้บ้าง
ยูเอสเอทูเดย์รายงานทิ้งท้ายว่า การประกาศปลดพนักงานครั้งล่าสุดนี้จะส่งผลต่อสำนักงานสาขาที่ตั้งอยู่ทั่วสหรัฐฯ ด้วย
เฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย อินเทลมีพนักงานราว 12,500 ใน 2 แคมปัส นอกจากนี้ยังพบว่าอินเทลมีพนักงานประจำอยู่ในเมืองริโอ แรนโช (Rio Rancho) รัฐนิวเม็กซิโก จำนวน 2,300 คน รวมไปถึงจำนวน 1,700 คนในเมืองฮัดสัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ส่วนในรัฐเทกซัส อินเทลมีพนักงานจำนวน 2,300 คนในเมืองออสติน และเมืองพลาโน และอีกจำนวน 1,000 คนในเมืองเบลเลวู (Bellevue) รัฐวอชิงตัน
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (20 เม.ย.) ว่า ในความเคลื่อนไหวของบริษัทอินเทลล่าสุดที่ต้องการเข้าสู่ตลาดคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ คลาวด์ และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ประธานกรรมการบริหารอินเทล ไบรอัน คราซานิช (Brian Krzanich) ระบุในอีเมลถึงพนักงานอินเทลทั้งหมดว่า “หลังจากที่กระบวนการปรับโครงสร้างผ่านไปแล้ว ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ในแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างมากขึ้น การบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ในขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของอินเทลอีกราย สเตซี สมิธ (Stacy Smith) ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ครึ่งหนึ่งของพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ที่คาดว่าจะมีจำนวน 6,000 คนจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้
สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมต่อว่า อินเทลมีสำนักงานใหญ่ในซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้มีพนักงานทั่วโลกทั้งหมด 112,400 คน โดยสมิธได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับยูเอสเอทูเดย์ว่า การปรับโครงสร้างของบริษัทครั้งนี้จะกระทบต่อพนักงานที่ประจำในส่วนฐานแคมปัสต่างๆ ของอินเทลเป็นส่วนใหญ่ แต่สมิธปฏิเสธที่จะระบุลงไปว่าพนักงานอินเทลที่ต้องถูกประกาศเลิกจ้างจะเกิดขึ้นที่ใดบ้าง
นอกจากนี้ยูเอสเอทูเดย์ยังชี้ต่อว่า การประกาศเลิกจ้างอินเทลยังส่งผลกระทบต่อรัฐโอเรกอน และโดยเฉพาะในเมืองพอร์ตแลนด์อย่างช่วยไม่ได้ เพราะอินเทลถือเป็นบริษัทที่มีการจ้างงานมากที่สุดในรัฐแห่งนี้ ที่มีพนักงานจำนวน 18,500 คนใน 6 แคมปัสที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองพอร์ตแลนด์ ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจของรัฐ
และนอกจากนี้ยังพบว่าสำนักงานสาขาใหญ่อันดับ 2 ของอินเทลตั้งอยู่ในแชนด์เลอร์(Chandler) รัฐแอริโซนา มีพนักงานอินเทลอยู่ไม่ต่ำกว่า 11,000 คน
ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า ในการปลดพนักงานออกไปรอบนี้จะสามารถทำให้บริษัทประหยัดไปได้ถึง 750 ล้านดอลลาร์ในปี 2016 และในส่วน annual run-rate อินเทลสามารถประหยัดไปได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ภายในกลางปี 2017 และในไตรมาสที่ 2 อินเทลจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางตัวเลขราว 1.2 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ บริษัทอินเทลที่มีธุรกิจผูกพันกับตลาดพีซีมาโดยตลอดมีแผนที่จะหันเหธุรกิจเข้าสู่เทคโนโลยีดาตาเซ็นเตอร์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต (IoT) พร้อมไปกับการตลาดด้านเมโมรีและเกต อาร์เรย์ (gate array) เพราะที่ผ่านมาไม่กี่ปีนี้ตลาดชิปคอมพิวเตอร์พีซีซบเซาอย่างหนัก โดยล่าสุดผลประกอบการของอินเทลตกไป 10% ในไตรมาสแรก
และในปี 2015 พบว่า 40% ของรายได้บริษัทอินเทลได้มาจากธุรกิจใหม่ ทำให้ชดเชยกับการขาดทุนในส่วนตลาดพีซีไปได้บ้าง
ยูเอสเอทูเดย์รายงานทิ้งท้ายว่า การประกาศปลดพนักงานครั้งล่าสุดนี้จะส่งผลต่อสำนักงานสาขาที่ตั้งอยู่ทั่วสหรัฐฯ ด้วย
เฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย อินเทลมีพนักงานราว 12,500 ใน 2 แคมปัส นอกจากนี้ยังพบว่าอินเทลมีพนักงานประจำอยู่ในเมืองริโอ แรนโช (Rio Rancho) รัฐนิวเม็กซิโก จำนวน 2,300 คน รวมไปถึงจำนวน 1,700 คนในเมืองฮัดสัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ส่วนในรัฐเทกซัส อินเทลมีพนักงานจำนวน 2,300 คนในเมืองออสติน และเมืองพลาโน และอีกจำนวน 1,000 คนในเมืองเบลเลวู (Bellevue) รัฐวอชิงตัน
