รอยเตอร์ - กรีซระบุว่าจะเริ่มดำเนินการเรื่องคำร้องขอลี้ภัยของบรรดาผู้อพยพหลายร้อยรายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า นับเป็นการทดสอบครั้งสำคัญสำหรับข้อตกลงของอียู ที่พยายามจะควบคุมกระแสการหลั่งไหลของผู้คนที่มุ่งหน้าสู่ยุโรป
คำร้องขอลี้ภัยในกรีซได้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ตอนที่อียูและตุรกีได้ลงนามทำข้อตกลงกันเรื่องปิดกั้นเส้นทางหลักสู่ยุโรป สำหรับผู้อพยพนับล้านที่พยายามเข้ายุโรป
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมผู้มาถึงกรีซจะถูกสกรีน ลงทะเบียน แล้วถูกควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์ จนกว่าคำร้องขอลี้ภัยจะถูกดำเนินการตามขั้นตอน คำร้องใดที่ถูกปฏิเสธหรือไม่ได้รับการอนุมัติ บุคคลนั้นก็จะถูกส่งกลับไปยังตุรกี
องค์การนิรโทษกรรมสากลได้เรียกสถานการณ์ในกรีซตอนนี้ว่า “โกลาหลมาก” ไม่มีการใส่ใจมากเพียงพอต่อบุคคลเหล่านั้น ทั้งยังมีหลายเสียงแสดงความกังวลว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นเพียงแค่ “การซ้อมปั๊มตรายาง” เพื่อส่งผู้อพยพกลับบ้านเท่านั้นเอง
จนถึงตอนนี้มีประมาณ 325 คนที่ไม่ได้ขอลี้ภัยและถูกส่งกลับตามข้อตกลง ซึ่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้ประณามการกระทำดังกล่าว ส่วนพวกกลุ่มสิทธิมนุษยชนก็บอกว่าแบบนั้นมันเป็นการละเมิดกฎหมายสากล
โอลกา เจโรวาซิลี โฆษกรัฐบาลกรีซ ระบุว่า ผลการประเมินคำร้องขอลี้ภัยชุดแรกจะพร้อมในอีกประมาณ 15 วัน ส่วนขั้นตอนต่อไป การดำเนินการตามข้อตกลงจะเริ่มขึ้น
ด้านโฆษกของสำนักงานผู้ลี้ภัยยุโรป ซึ่งร่วมดำเนินการตามข้อตกลง ได้ระบุว่า กรอบเวลาดังกล่าวนั้นสามารถปฏิบัติได้ โดยมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปเกาะเลสบอสตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพื่อดำเนินการรับทราบการประเมินผลของผู้อพยพที่มาถึงกรีซ