รอยเตอร์ - ชาวเกาหลีเหนือ 13 คน ที่ทำงานที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งของทางการโสมแดงในประเทศที่สามกำลังขอลี้ภัยทางการเมืองในเกาหลีใต้ โซล เผยในวันนี้ (8) โดยระบุว่า เป็นการหลบหนีออกจากประเทศแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พนักงานเหล่านี้ซึ่งเป็นหญิง 12 คน และชาย 1 คน ที่บริหารภัตตาคารดังกล่าวเดินทางมาถึงเกาหลีใต้เมื่อวันพฤหัสบดี (7) และถูกรับเข้ามาด้วยเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม จอง จุนฮี โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งดูแลเรื่องเกาหลีเหนือ ระบุ
เขากล่าวว่า พนักงานเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกเปียงยางกดดันให้ส่งเงินสดที่หาได้จากภัตตาคารกลับประเทศเนื่องจากแหล่งรายได้อื่น ๆ ถูกขัดขวางด้วยการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ
เกาหลีใต้แนะนำให้พลเมืองของตนงดเว้นการรับประทานอาหารที่ภัตตาคารของเกาหลีเหนือในต่างประเทศหลังจากพวกเขาบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อเปียงยางเมื่อเดือนมีนาคมภายหลังมติของคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาชาติที่เป็นผลจากการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของเกาหลีเหนือ รายงานของสื่อระบุว่าหลายธุรกิจประสบความลำบาก
ภัตตาคารดังกล่าวในประเทศอย่างจีนและกัมพูชา ทำเงินได้ราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในรายได้ต่อปีซึ่งถูกส่งผ่านไปยังเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ อ้างจากกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้
พนักงานของภัตตาคารเกาหลีเหนือ มักทำการแสดงดนตรีเป็นประจำนอกเหนือจากการเสิร์ฟอาหาร และถูกเลือกจากความภักดีที่พวกเขามีให้กับรัฐบาล
จอง กล่าวว่า ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนสำหรับการที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งหลบหนีออกจากภัตตาคารของเกาหลีเหนือแห่งเดียวกันในต่างประเทศ
มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเกาหลีใต้เช่นกันที่จะประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการหลบหนีออกจากประเทศโดยชาวเกาหลีเหนือ หรือแม้กระทั่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมัน
จอง กล่าวว่า รัฐบาลตัดสินใจที่จะประกาศเกี่ยวกับการมาถึงนี้ เพราะว่านี่ไม่ใช่ลักษณะปกติของการหลบหนีออกนอกประเทศ
นับจนถึงเดือนมีนาคมมีผู้คนหลบหนีออกมาจากเกาหลีเหนือและมายังเกาหลีใต้แล้วราว 29,000 คน รวมถึง 1,276 คนในปีที่แล้ว จำนวนดังกล่าวลดลงนับตั้งแต่ช่วงจุดสูงสุดในปี 2009
ชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีมายังเกาหลีใต้มักเดินทางผ่านจีนสู่ประเทศที่สามก่อนที่จะมายังแดนกิมจิ เกาหลีเหนือจะลงโทษผู้ที่พยายามหลบหนีออกจากประเทศและครอบครัวของพวกเขา
จองปฏิเสธที่จะระบุว่าภัตตาคารของพวกเขาตั้งอยู่ประเทศไหน หรือพวกเขาอยู่ประเทศไหนมาก่อนที่จะเดินทางมายังเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าอาจกระทบความสัมพันธ์ทางการทูต
