เอเจนซีส์ / MGR online - เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ “RT” ของรัสเซีย รายงานในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) โดยระบุว่ากลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อเหตุโจมตีเมืองอะเลปโปในซีเรีย และพื้นที่โดยรอบด้วย “อาวุธเคมี” เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ “YPG” ของชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด
รายงานของสื่อดังแห่งแดนหมีขาวซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เป็นผู้สื่อข่าวชาวเคิร์ดในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีด้วยอาวุธเคมีดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเวลา 11.30-12.00 น. ของเมื่อวันพฤหัสบดี (7) ตามเวลาท้องถิ่นในซีเรีย
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าอาวุธเคมีที่กลุ่มไอเอสนำมาใช้ก่อเหตุโจมตีในครั้งนี้เป็นอาวุธชนิดใด หรือมีสารพิษใดเป็นส่วนประกอบ
ในอีกด้านหนึ่งมีผู้นำคลิปวิดีโอไปโพสต์บนโลกออนไลน์ ซึ่งในคลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นกลุ่มแก๊สที่มีสีเหลืองลอยคละคลุ้งอยู่เหนือพื้นที่เขตชีคห์ มักซูดของเมืองอะเลปโป ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสที่เป็นเมืองหลวงไปทางเหนือราว 355 กิโลเมตร
ด้านสภาเสี้ยววงเดือนแดงเคิร์ด (เฮย์วา ซอร์) ออกคำแถลงยืนยันเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีในครั้งนี้ ขณะที่แพทย์ในพื้นที่รายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่ามีเหยื่อจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีหลายราย ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลในสภาพที่หายใจติดขัด หรือคลื่นไส้อาเจียน
รายงานข่าวการโจมตีเมืองอะเลปโปด้วยอาวุธเคมีไม่ทราบชนิดของกลุ่มไอเอสในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียง 3 วันหลังจากที่กลุ่มนักรบอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้เพิ่งก่อเหตุถล่มเมืองดาอีร์ อัล-ซอว์ร ทางภาคตะวันออกของซีเรียด้วยจรวด และแก๊สพิษมัสตาร์ด
ก่อนหน้านี้ กลุ่มเคลื่อนไหวที่เรียกตัวเองว่า “สภาแพทย์ซีเรียน-อเมริกัน” ออกรายงานที่ระบุว่า กลุ่มไอเอสได้เปิดการโจมตีด้วยอาวุธเคมีมากกว่า 160 ครั้งนับตั้งแต่ที่สงครามกลางเมืองซีเรียปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,491 ราย และพบหลักฐานว่ากลุ่มไอเอส ใช้สารเคมีต้องห้ามหลายชนิดในการโจมตี เช่น แก๊สพิษซาริน แก๊สพิษมัสตาร์ด และสารเคมีจำพวกคลอไรน์