xs
xsm
sm
md
lg

อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจานปะทะเดือดเหนือดินแดนพิพาท “นากอร์โน-คาราบัค” เจ็บ-ตายอื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online - เกิดเหตุยิงปะทะกันอย่างหนักในวันเสาร์ (2 เม.ย.) ระหว่างกองกำลังของอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานเหนือดินแดนพิพาทนากอร์โน-คาราบัค โดยฝ่ายอาเซอร์ไบจานอ้างสูญเสียกำลังทหารของตนไป 12 นาย แต่ระบุฝ่ายอาร์เมเนียสูญเสียอื้อ

เหตุปะทะที่เกิดขึ้นล่าสุดถือเป็นหนึ่งในการกระทบกระทั่งที่รุนแรงที่สุดระหว่างชาติเพื่อนบ้านทั้งสอง นับตั้งแต่การรบพุ่งกันในสงครามเต็มรูปแบบเมื่อปี 1994 ซึ่งผลจากสงครามในครั้งนั้นทำให้พื้นที่พิพาทนากอร์โน-คาราบัค ตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยกองกำลังติดอาวุธของชนเชื้อสายอาร์เมเนียและกองทัพอาร์เมเนียอย่างสมบูรณ์

รายงานข่าวระบุว่า ทางการของทั้งสองประเทศต่างออกโรงกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายเริ่มการใช้ความรุนแรงก่อนในเหตุยิงปะทะที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ โดยคำแถลงของกระทรวงกลาโหมของอาเซอร์ไบจานระบุว่า ฝ่ายตนสูญเสียชีวิตของทหารไป 12 นาย และว่ามีเฮลิคอปเตอร์ของตน 1 ลำถูกยิงตก พร้อมกล่าวอ้างว่า ทหารอาเซอร์ไบจานสามารถสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับฝ่ายอาร์เมเนียที่มีทหารเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน ยังไม่รวมกับรถถังที่ถูกทำลายอีก 6 คัน และที่ตั้งอาวุธหนักอีกจำนวนมาก

ขณะที่ทางการอาร์เมเนียก็ออกคำแถลงที่อ้างว่าฝ่ายตนสามารถสร้างความสูญเสียให้ฝ่ายอาเซอร์ไบจานได้มากเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีการแจกแจงรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมอาเซอร์ไบจานเพิ่งแถลงเมื่อ 28 มี.ค. ระบุสูญเสียกำลังทหารฝ่ายตนไป 2 นายระหว่างการปะทะกับกองทัพของอาร์เมเนีย บริเวณพรมแดนของทั้งสองประเทศ

ด้านกระทรวงกลาโหมของอาร์เมเนียออกคำแถลงกล่าวหาฝ่ายอาเซอร์ไบจานว่า เป็นผู้เริ่มการเผชิญหน้ารอบล่าสุดทั้งพื้นที่ตลอดแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ ตลอดจนเขตติดต่อรอบดินแดนพิพาท “นากอร์โน-คาราบัค” ซึ่งมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ในอาเซอร์ไบจาน แต่ถูกควบคุมโดยประชาชนเชื้อสายอาร์เมเนียที่เป็นชนส่วนใหญ่ในพื้นที่

ที่ผ่านมาความขัดแย้งและเหตุปะทะระหว่างอดีตดินแดนในสหภาพโซเวียตทั้งสอง รวมถึงปัญหาอธิปไตยเหนือดินแดนนากอร์โน-คาราบัค ได้จุดชนวนความหวั่นวิตกว่า ความขัดแย้งนี้อาจลุกลามขยายวงกว้างต่อไปยังดินแดนอื่นๆ แถบตอนใต้ของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งถูกพาดผ่านไปด้วยท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก

การปะทะกันบ่อยครั้งระหว่างประเทศทั้งสองกลายเป็น “อุปสรรคชิ้นสำคัญ” ที่ขัดขวางความพยายามของนานาชาติที่นำโดยฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ในการหาทางออกเพื่อยุติข้อพิพาทนี้ ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และคร่าชีวิตผู้คนของทั้งสองประเทศไปแล้วไม่น้อยกว่า 30,000 ราย



กำลังโหลดความคิดเห็น