เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - กองทัพรัฐบาลซีเรียได้ใจรุกไล่ไอเอสต่อไปในสัปดาห์นี้ หลังยึดเมืองโบราณพัลไมราคืนสำเร็จเมื่อวันอาทิตย์ (27 มี.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความปราชัยครั้งสำคัญของนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ไอเอสจะต่อสู้ขัดขืนอย่างหนักเพื่อรักษาเมืองรักเกาะฮ์ที่ถูกอุปโลกน์เป็นเมืองหลวงของ “รัฐอิสลาม” รวมทั้งจังหวัดอุดมด้วยน้ำมันอย่าง ไดร์อัซเซาร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายต่อไปของกองกำลังอัสซาด
กองทัพซีเรียมุ่งหน้าสู่จังหวัดไดร์อัซเซาร์ ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในวันจันทร์ (28) หรือหนึ่งวันหลังจากสามารถกลับเข้าควบคุมเมืองพัลไมรา โดยได้รับการสนับสนุนด้วยกำลังทางอากาศของรัสเซีย
นักวิเคราะห์ระบุว่า การยึดคืนเมืองพัลไมราได้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับทั้งดามัสกัส และมอสโก ในการทำสงครามกับไอเอส
ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ประกาศว่า ชัยชนะนี้เป็นบทพิสูจน์ประสิทธิภาพของกองทัพซีเรียและพันธมิตร
กระนั้น ไอเอสได้ทำลายสุสานและวิหารกว่าสิบแห่ง นับแต่ที่เข้ายึดครองพัลไมรา ซึ่งยูเนสโกยกให้เป็นเมืองมรดกโลกและเรียกขานกันว่า “ไข่มุกแห่งทะเลทราย” ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยที่เมื่อเดือนกันยายน 2015 นักรบญิฮัดกลุ่มนี้ได้ทำลายซากวิหารเบล ซึ่งมีอายุถึง 2,000 ปี รวมทั้งในเดือนถัดมาก็ทำลายประตูชัยพัลไมรา สร้างขึ้นในช่วง 200 ปีก่อนคริสตกาล
ไอเอสยังใช้โรงละครโบราณของพัลไมราเป็นลานประหารนักโทษ ซึ่งรวมถึงคาลิด อัล-อัสซาด นักโบราณคดีคนสำคัญของซีเรีย
แม้ มามูน อับดุลคาริม ผู้รับผิดชอบด้านโบราณสถานของซีเรีย บอกว่า สถานที่สำคัญ 80% ในเมืองพัลไมรายังอยู่ในสภาพดี และเชื่อว่า สามารถบูรณะสถานที่ที่ถูกทำลายไปได้ภายใน 5 ปี โดยความช่วยเหลือจากยูเนสโก ทว่า แอนนี่ ซาตร์-ฟอเรียต ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ไม่มั่นใจในกรอบเวลาดังกล่าว
ภายในเมืองพัลไมรา ทหารช่างระดมกำลังค้นหาและปลดชนวนระเบิด และกับระเบิดที่ไอเอสซุกซ่อนไว้ก่อนล่าถอยไป ทหารนายหนึ่งเผยว่า สามารถปลดชนวนระเบิดแล้วกว่า 50 ลูก
นอกเมืองพัลไมรา กองทัพซีเรียหันความสนใจไปที่เมืองอื่น ๆ ซึ่งไอเอสยึดครอง ที่อยู่บนเส้นทางมุ่งสู่รักเกาะฮ์ เมืองที่ผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้อุปโลกน์เป็นเมืองหลวงของตัวเอง
แหล่งข่าวในกองทัพซีเรีย เผยว่า กองทัพกำลังล้อมเมืองอัล-การ์ยาเทน และเป้าหมายต่อไปคือ เมืองซุคนาห์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพัลไมรา
ซูฟาน กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่นคงในนิวยอร์ก มองว่า การสูญเสียพัลไมราถือเป็นความเพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ของไอเอส ที่กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากกองกำลังซีเรีย และอิรัก
โทมัส เพียร์เร็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านซีเรีย ขานรับว่า การสูญเสียพัลไมรา บ่งชี้ว่า ไอเอสอ่อนแอลงมาก อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่า นักรบญิฮัดกลุ่มนี้จะต่อสู้อย่างหนักเพื่อรักษาเมืองรักเกาะฮ์ และ ไดร์อัซเซาร์
ทางด้านรัฐบาลอเมริกาแสดงความยินดีต่อชัยชนะของอัสซาดด้วยท่าทีระมัดระวัง ซ้ำเตือนผู้นำซีเรียไม่ให้ขยายอำนาจกดขี่ข่มเหงประชาชนของตนเอง
จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองลุงแซม ประกาศเพิ่มความกดดันต่อไอเอส หลังหารือกับ เมฟลัต คาวูโตกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ที่กรุงวอชิงตัน
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า บทบาทของรัสเซียในพัลไมรา ทำให้วอชิงตันแสดงความเคลือบแคลงแผนการที่แท้จริงของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน
นอกจากนั้น แม้มีการประกาศอย่างเอิกเกริก ว่า รัสเซียจะถอนกำลังออกจากซีเรียตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ทว่า นักวิเคราะห์ฝ่ายตะวันตก อ้างว่า จนถึงขณะนี้ มอสโกยกพลกลับเพียง 10 - 25% เท่านั้น ถึงแม้รัสเซียได้เผยแพร่ทั้งคลิปวิดีโอและภาพถ่าย แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินรบจำนวนมากของตนได้บินออกจากซีเรียกลับไปยังรัสเซียแล้ว
มิหนำซ้ ำมอสโกยังยอมรับอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรกนับจากเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ว่า มีกองกำลังพิเศษภาคพื้นดินปฏิบัติการอยู่ในซีเรีย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็เป็นอย่างที่ พาเวล เฟลเกนโกเออร์ นักวิเคราะห์ด้านการทหารของรัสเซีย ชี้ว่า การแพร่ข่าวลือในโลกตะวันตกที่ว่า รัสเซียกำลังจะตัดหางอัสซาดเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพ ในทางกลับกัน มอสโกต้องการหยิบยื่นโอกาสให้ผู้นำซีเรียเอาชนะในสงครามกลางเมือง
ด้านอิหร่าน พันธมิตรสำคัญอีกหนึ่งชาติของอัสซาด ยินดีกับการยึดคืนพัลไมรา พร้อมประกาศให้การสนับสนุนทางการเงินและการทหารแก่กองทัพซีเรียต่อไป