เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “อาบูไซยาฟ” ลักพาตัวลูกเรือชาวอินโดนีเซีย 10 คนในเขตน่านน้ำฟิลิปปินส์ โดยขอให้เจ้าของเรือจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกัน เจ้าหน้าที่อิเหนาเผยวันนี้ (29 มี.ค.)
อาร์มานาธา นาซีร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ระบุว่า ลูกเรือกลุ่มนี้ถูกคนร้ายลักพาตัวขณะเดินทางไปพร้อมกับเรือ 2 ลำ ซึ่งขนถ่านหินจากเกาะบอร์เนียวไปส่งยังฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เรือลากจูงและเรือบรรทุกถ่านหินถูกโจมตี แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26) บริษัทเจ้าของเรือได้รับโทรศัพท์ขอเรียกค่าไถ่จากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม อาบูไซยาฟ กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในฟิลิปปินส์ซึ่งมีประวัติก่อเหตุวางระเบิดและลักพาตัวคนจำนวนมาก ทั้งยังประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในตะวันออกกลางด้วย
“ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. คนร้ายได้ติดต่อไปยังบริษัทเจ้าของเรือแล้ว 2 ครั้งเพื่อเรียกเงินค่าไถ่” นาซีร์ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว โดยไม่ระบุจำนวนเงินที่กลุ่มติดอาวุธเรียกร้อง
โฆษกผู้นี้กล่าวเสริมว่า เรือลากจูง พรหม 12 (Brahma 12) ได้รับการปลดปล่อยให้แก่ทางการฟิลิปปินส์ไปแล้ว ส่วนเรือขนถ่านหิน อานันท์ 12 (Anand 12) และลูกเรือชาวอิเหนา ยังไม่ทราบว่าถูกพาไปไว้ที่ไหน
กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อให้ช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์ครั้งนี้แล้ว
“สิ่งที่รัฐบาลคำนึงถึงมากที่สุดคือความปลอดภัยของพลเมืองอินโดนีเซียทั้ง 10 คนที่ถูกลักพาตัวไป” นาซีร์กล่าว พร้อมระบุว่าได้แจ้งให้ครอบครัวของเหยื่อทราบข่าวแล้ว
ล่าสุดยังไม่มีคำยืนยันจากทางการฟิลิปปินส์เรื่องชะตากรรมของลูกเรืออิเหนา แต่ พล.อ.เอร์นันโด อิริเบร์รี ผู้บัญชาการทหารแดนตากาล็อก ได้นั่งเครื่องบินไปยังฐานทัพทางตอนใต้ของประเทศเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าควรมีมาตรการอย่างไรต่อไป พลจัตวา เรสติตูโต ปาดิลลา โฆษกประจำตัวผู้บัญชาการทหาร ให้สัมภาษณ์
รัฐบาลมะนิลาเคยประกาศย้ำหลายครั้งว่าไม่มีนโยบายจ่ายเงินค่าไถ่ให้แก่กลุ่มติดอาวุธ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติซึ่งถูกพวกอาบูไซยาฟ จับเป็นตัวประกันมักจะยอมจ่ายเงินเพื่อคืนอิสรภาพให้แก่คนของตน