เบลเยียมปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยหนึ่งเดียวคดีบึ้มบรัสเซลส์ โอละพ่อไม่ใช่ชายสวมหมวกที่สนามบิน

เอเอฟพี - เบลเยียมเมื่อวันจันทร์ (28 มี.ค.) ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยหนึ่งเดียวที่ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวข้องเหตุพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) โจมตีกรุงบรัสเซลส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ กระพือคำถามรอบใหม่เกี่ยวกับการจัดการกับคดีนี้ของพวกเจ้าหน้าที่

อัยการตั้งข้อหาชายคนหนึ่งซึ่งระบุว่าชื่อนายเฟย์คาล เชฟฟู เมื่อวันเสาร์ (26 มี.ค.) ในฐานความผิดต่างๆ ในนั้นรวมถึง “ฆาตกรรมก่อการร้าย” และกำลังสืบสวนในทฤษฎีที่ว่าเขาเป็นคนร้ายรายที่ 3 ที่ร่วมลงมือโจมตีสนามบินและหลบหนีไปหลังจากระเบิดของเขาไม่ทำงานหรือไม่

การปล่อยตัวเขากลายเป็นความล้มเหลวครั้งใหม่ของการสืบสวนที่ถูกกล่าวหาอยู่ก่อนแล้วว่าเจ้าหน้าที่เบลเยียมพลาดเบาะแสต่างๆ นานา ในการปราบปรามเครือข่ายนักรบญิฮัดที่เชื่อมโยงกับเหตุโจมตีคราวนี้และเหตุก่อวินาศกรรมคล้ายกันในปรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (28 มี.ค.) ตำรวจเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ภาพผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ของเหตุโจมตีสนามบินซาเวนเท็มเมื่อวันที่ 22 มีนาคม เป็นชายสวมหมวกที่อยู่กับมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คน

เจ้าหน้าที่ยังได้ปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมัลบีค เป็น 35 คน ในเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบลเยียม หลังมีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มเติมอีก 4 คน ขณะที่ประชาชนผู้เศร้าโศกใช้วาระเนื่องในวันอิสเตอร์จัดพิธีรำลึกถึงเหยื่อตามโบสถ์ต่างๆ

สำนักงานอัยการเบลเยียมระบุในถ้อยแถลงว่า “ข้อบ่งชี้ต่างๆ ที่นำมาสู่การจับกุมนายเฟย์คาล ซี. ไม่เป็นรูปธรรมมากพอต่อการสืบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่ ผลเช่นนี้ผู้ต้องสงสัยจึงถูกปล่อยตัวโดยศาลสืบสวน” ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสืบสวนบอกกับเอเอฟพีว่า “คณะสืบสวนสรุปว่าชายคนนี้ไม่ใช่ชายสวมหมวกในวิดีโอ”

ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนระบุว่าชายคนดังกล่าวคือนายเฟย์คาล เชฟฟู ที่อ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวอิสระ

ท่ามกลางความพยายามไล่ล่าอย่างหนัก ตำรวจได้เผยแพร่วิดีโอชายใส่แจ็กเก็ตสีขาวสวมหมวก ที่ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ขณะกำลังเข็นรถเข็นผ่านอาคารผู้โดยสารขาออก อยู่ข้างๆ กับมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คน ได้แก่ นายอิบราฮิม บากราวี และนาจิม ลาชราวี

ชาวเบลเยียมยากที่จะทำใจยอมรับโศกนาฏกรรมคราวนี้ ด้วยมีเสียงกล่าวโทษเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องว่าน่าจะและควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้ในการปกป้องเหตุสังหารหมู่ ขณะที่เริ่มเป็นที่ชัดเจนมากขึ้นทุกๆ วันว่าพวกคนร้ายมีความเชื่อมโยงกับเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งลงมือโดยกลุ่มรัฐอิสลาม โดยเฉพาะการพบดีเอ็นเอของนายลาชราวี คนผลิตระเบิดอยู่บนวัตถุระเบิดบางส่วนที่ถูกใช้ในเหตุวินาศกรรมเมืองหลวงของฝรั่งเศส

ขณะเดียวกันก็เชื่อว่านายคาลิด บากราวี มือระเบิดโจมตีสถานีรถไฟฟ้า น้องชายของนายอิบราฮิม เคยเช่าห้องพักที่เกี่ยวข้องกับนายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุโจมตีปารีส ซึ่งถูกจับกุมในบรัสเซลส์ในวันที่ 18 มีนาคม ไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุโจมตีเมืองหลวงของเบลเยียม หลังหลบหนีมานานถึง 4 เดือน

และตุรกีกล่าวหาบรัสเซลส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเพิกเฉยต่อภัยอันตรายที่ชัดเจนและใกล้เข้ามา หลังเผยว่าเคยเนรเทศนายอิบราฮิม ในฐานะนักรบก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้ว หลังจากควบคุมตัวเขาได้ใกล้ชายแดนซีเรีย แต่ทางการเบลเยียมได้ปล่อยตัวเขาไป ข้อเท็จจริงที่ทำให้รัฐมนตรีเบลเยียม 2 รายเสนอตัวขอลาออกรับผิดชอบต่อการปล่อยปละละเลยดังกล่าว