เอเอฟพี - ทางการฟิลิปปินส์กำลังจัดนิทรรศการออนไลน์แสดงเครื่องเพชรที่เป็นของจอมเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอสและครอบครัวของเขา เพื่อให้ความรู้คนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการคอร์รัปชันในยุคนั้น
นิทรรศการบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ในครั้งนี้โดยคณะกรรมาธิการประธานาธิบดีว่าด้วยรัฐบาลที่ดี (Presidential Commission on Good Government หรือพีซีจีจี) มีขึ้นในขณะที่ตระกูลนี้กำลังพยายามกลับเข้ามาในวงการการเมืองในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม
“ความตั้งใจของพีซีจีจีคือการโพสต์ภาพเครื่องเพชรต่างๆ เพื่อแสดงและเตือนให้คนรุ่นใหม่เห็นถึงความฟุ้งเฟ้อของตระกูลมาร์กอสในระบอบเผด็จการนาน 2 ทศวรรษของพวกเขา” หน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชันแห่งนี้ระบุในเว็บไซต์
“นิทรรศการเครื่องเพชรเสมือนจริง” (The Virtual Jewelry Exhibit) เริ่มต้นเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมด้วยการโพสต์ภาพของมีค่าที่ถูกยึดหลังจากจอมเผด็จการรายนี้ถูกโค่นล้มจากการลุกฮือของประชาชนโดยมีกองทัพหนุนหลังในปี 1986
นอกเหนือจากภาพเครื่องเพชรที่ถูกอัปโหลดเป็นประจำแล้ว ยังมีโพสต์เขียนอธิบายว่ามันทำให้ประเทศนี้สูญเสียอะไรไปบ้าง
ภาพของมงกุฎเพชรอันหนึ่งมาพร้อมกับคำบรรยายว่า “สามารถจัดหาทุนรักษาผู้ป่วยวัณโรคได้ 12,052 คน”
พีซีจีจีซึ่งมีแผนว่าจะนำเครื่องเพชรของมาร์กอสออกประมูลในท้ายที่สุดเคยระบุว่า บริษัทประมูลต่างชาติประเมินมูลค่าโดยรวมของพวกมันไว้ที่มากกว่าหนึ่งพันล้านเปโซ (ราว 742 ล้านบาท)
มาร์กอส และอิเมลดา ภรรยาผู้รักการท่องเที่ยวต่างประเทศของเขาถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาลระหว่างช่วงระยะเวลาหลายปีในอำนาจของพวกเขาในขณะที่ประเทศนี้ดำดิ่งสู่ความยากจนกว่าเดิม
อิเมลดามีชื่อเสียงเรื่องความฟุ่มเฟือย การสะสมเครื่องเพชร งานศิลปะชิ้นเอก และการสะสมรองเท้าจำนวนมาก
ถึงแม้ว่าครอบครัวนี้จะลี้ภัยไปต่างประเทศในช่วงการปฏิวัติปี 1986 แต่พวกเขาได้รับอนุญาตให้กลับมาหลังจากมาร์กอสเสียชีวิตในต่างแดนเมื่อปี 1989
นับตั้งแต่นั้นตระกูลมาร์กอสได้ผงาดกลับขึ้นมาอย่างน่าตกใจ โดยไม่เพียงแค่สมาชิกครอบครัวพ้นข้อกล่าวหาทางอาญาเท่านั้นแต่ยังชนะการเลือกตั้งในตำแหน่งสำคัญๆ อีกด้วย
เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งเคยได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกที่ทรงอิทธิพล ปัจจุบันกำลังหาเสียงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ขณะที่ อิเมลดา ภรรยาม่ายมาร์กอสกำลังหาทางให้ได้รับเลือกเข้าสู่รัฐสภาอีกครั้ง และ อิมี ลูกสาวคนโตของเธอกำลังหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าการของจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของตระกูลนี้อีกสมัย
ทั้งๆ ที่มีการรณรงค์ต่อต้านโดยเหยื่อของระบอบมาร์กอส แต่ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า มาร์กอส จูเนียร์ เป็นที่สองในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี อิเมลดา มาร์กอส เคยกล่าวว่า เธอหวังว่าลูกชายของเธอจะได้เป็นประธานาธิบดีในที่สุด
นักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่า คนรุ่นที่โตขึ้นมาหลังยุคมาร์กอสไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับการใช้อำนาจโดยมิชอบต่างๆ ของพวกเขา ซึ่งเปิดทางให้กับการกลับคืนสู่อำนาจของครอบครัวนี้
ทั้งอิเมลดาและลูกชายของเธอปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ทำความผิด เอเอฟพีไม่สามารถติดต่อโฆษกของทั้งสองเพื่อขอความคิดเห็นได้