เอเอฟพี - องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International - AI) แถลงประณามการแขวนคอนักโทษคดีฆาตกรรม 3 คนในมาเลเซียวันนี้ (25 มี.ค.) ว่าเป็นสิ่งที่น่า “ตกตะลึงและสะเทือนใจ” พร้อมตำหนิรัฐบาลเสือเหลืองที่ไม่ใส่ใจเสียงเรียกร้องจากนักสิทธิมนุษยชนที่คัดค้านโทษประหาร
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในมาเลเซีย เรียกร้องในสัปดาห์นี้ให้รัฐบาลเลื่อนการประหารชีวิต กูนาเซการ์ พิตเชย์มูธู ออกไปก่อน แต่ปรากฏว่าวันนี้ (25) เขาได้ถูกลงโทษแขวนคอพร้อมกับนักโทษสองพี่น้อง คือ ราเมศ ชัยกุมาร และ ศศิวรนัม ชัยกุมาร
สำนักข่าวเอเอฟพียังไม่สามารถยืนยันเรื่องการประหารนักโทษทั้งสามได้ เนื่องจากมาเลเซียไม่ประกาศให้สาธารณชนรับทราบ และยังปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการประหารชีวิตอีกด้วย
เจ้าหน้าที่มาเลเซียเคยชี้แจงในช่วง 2-3 ปีมานี้ว่า รัฐบาลอาจพิจารณายกเลิกโทษประหาร แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
“การที่นักโทษกลุ่มนี้ถูกแขวนคอในช่วงที่รัฐบาลมาเลเซียกำลังหารือเรื่องยกเลิกโทษประหาร ทำให้เหตุการณ์นี้ยิ่งน่าตกตะลึง และสะเทือนใจเป็นพิเศษ” โจเซฟ เบเนดิกต์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ของเอไอประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุในคำแถลง
“การแขวนคอนักโทษครั้งนี้ถือเป็นสิ่งย้ำเตือนว่า รัฐบาลมาเลเซียจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเป็น 2 เท่าเพื่อยับยั้งการประหารนักโทษ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนแรกที่นำไปสู่การยกเลิกบทลงโทษนี้อย่างสมบูรณ์”
เมื่อวานนี้ (24) สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้มีหนังสือเรียกร้องให้ทางการมาเลเซียระงับการประหารชีวิต กูนาเซการ์ พิตเชย์มูธู โดยระบุว่า การประหารนักโทษแบบปิดลับของมาเลเซียเป็นสิ่งที่น่ากังวล
ปัจจุบันมีนักโทษที่ถูกตัดสินประหารชีวิตราว 900 คนในมาเลเซีย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
